By พิเภกInter :
15 ต.ค. 2016 - 03:59
"เกาทัณฑ์สยบฟ้า"เมื่อเดินทางมาถึงนาทีสุดท้าย...หลัง"สิ้นเสียงนกแสก"กลับไร้ร่องรอยของ"เตียบ่อหลัน"
มันผู้มีพลังนพเก้าครองกาย หามีอาวุธใดทำอันตรายแม้รอยข่วน
ด้วยพลัง"เกาอิมจินเกง"ที่ได้รับถ่ายทอดจาก"อ่วงเล่งกง"มาคลุมกาย สิ้นประมุขพรรคฟ้าดินไม่นาน"เตียบ่อหลัน"ก็พา "18-1 อรหันต์"หลบเร้น แม้นผ่านไป 7 ราตรี มิปรากฏกายแห่ง"เตียบ่อหลัน"ยุทธ์จักรคงมีปัญหา...
บัดนี้ ตำแหน่ง"ตกโกวชิ้วป่าย"หรือฉายาภายในเรียกว่า"บูรพาไม่แพ้" ได้ตกเป็นของ"เตียบ่อหลัน"ผู้มีนามเดิมว่า"เปงติงสู"ไปโดยอัตโนมัติผ่านไปหลายราตรี ยังมิมีวี่แววของจอมกระบี่แซ่เตีย และบรรดาที่ปรึกษา..??!!
ที่น่าประหลาดใจไปยิ่งกว่า คือบรรดาพี่ใหญ่แห่ง"ซาป้อเฮียบ"พลอยไร้วี่แวว ทั้งคู่ต่างหายจากยุทธ์จักรอย่างไม่ทราบที่ไป และไร้กำหนดมาหาตัวไม่เห็น หากเป็นเช่นนี้จนครบ 7 ราตรียังมิมีฝ่ายใดโผล่กายยุทธ์จักรวอดวายแน่...
ล่วงมาเนินช้า ทั้งเหลา"18-1 อรหันต์"ผู้มี"เตียบ่อหลัน"เป็นหัวหน้า อีกฝ่าย คือ สำนักคุ้มภัย"ซาป้าเฮียบ"อันมีพี่ใหญ่นามว่า"ถังปอตือ" ทั้งคู่ต่าง"ซ่อนดาบในรอยยิ้ม"ภายนอกดูสง่า ภายในกลับส่อแววเข่นฆ่า
ต่างจ้องหาโอกาสกำจัดกันและกัน อันเป็นที่ทราบของเหลาจอมยุทธ์ นาทีระทึกเมื่อครบกำหนดเวลา"ตั้งประมุขฟ้าดิน"ผู้มาใหม่... แต่จนบัดนียังไร้ผู้มีอำนาจที่ได้รับการถ่ายทอด อีกทั้งผู้พิทักษ์กฏ...!!!
ล่วงเวลามาถึง"สามราตรี"ยังไร้วีแววการตั้งประมุขพรรค อีกทั้งผู้พิทักษ์กฏ และเหลา"18-1 อรหันต์"ภายใต้การนำ"ต๊กโกชิ้วป่าย" ตำแหน่งประมุขพรรคที่ว่างก็ไร้การแต่งตั้ง "อ่วงเล่งเกี้ย"ผู้มีสิทธิ์แต่กลับปฏิเสธ
เหตุการณ์ภายในกำแพงใหญ่ เบื้องนอกดูสดใส แต่เบื้องในกลับคุกรุ่น...หากดำเนินเช่นนี้ต่อไปย่อมสร้างความระส่ำระสายแก่ยุทธ์ภพ...เมื่อผู้มีสิทธิ์แต่กลับปฏิเสธ ผู้มีหน้าที่กลับเร้นกาย ความวุ่นวายตั้งเค้าอยู่เบื้องหน้า
แต่"ป๋า"เงียบไปนี่ อันตรายนะ ขอบอก หากพ้น 3 ราตรียังไม่ออกมาคำนับ...เตรียมตัวกันได้ เลือดท่วมท้องช้างแน่...
ส่งท้ายในบทนี้ โปรดจับตาดูให้ดีนะท่านผู้ชม...ภายในสามวันยังไร้เงาของ"เตียบ่อหลัน"และ"ถังปอตือ"
ขอจงเตรียมข้าวสารอาหารแห้งมารอไว้ ได้ใช้แน่...
...
ก่อนคลื่นจัดพายุแรง ทะเลแลดูสงบ...ทางใต้เขาเรียกว่า"อุกาฟ้าเหลือง"วันพายุใหญ่ ยุทธ์ภพจะอยู่รอดปลอดภัยหรือย่อยยับ ให้จับตาภายใน 7 ราตรี...!!!
( หมายเหตุ-คำเตือนนิยายคือนิยายห้ามมโนตามเด็ดขาด ควรตั้งสติใช้ชีวิตไปตามปกติธรรมดาติดตามข่าวสารบ้านเมืองอย่างใกล้ชิด ดูแลตัวเองเตรียมตัวพร้อมตั้งอยู่ในความไม่ประมาทอย่าวิตกจริตไปกับเรื่องภายในกำแพงใหญ่จนเกินเหตุ
โปรดใส่ใจช่วยกันชี้นำเป็นแสงสว่างนำทาง"ติดอาวุธทางปัญญา"นำเรื่องราวความจริงให้ความรู้แก่คนในสังคมข้างนอกกำแพงใหญ่เพื่อได้รู้ได้เข้าใจสภาพความเป็นจริงของสังคมไทย"ช่วงเปลี่ยนผ่าน"
เพื่อจะได้ยกระดับพัฒนาตัวเองปรับปรุงแนวคิดตัวเองให้ก้าวทันอยู่ได้กับยุคสมัย อย่าลืมสังคมไทยจะพัฒนาขับเคลื่อนผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้ขึ้นอยู่กับประชาชนไทยทั้งประเทศร่วมมือกันเท่านั้น )
มันผู้มีพลังนพเก้าครองกาย หามีอาวุธใดทำอันตรายแม้รอยข่วน
ด้วยพลัง"เกาอิมจินเกง"ที่ได้รับถ่ายทอดจาก"อ่วงเล่งกง"มาคลุมกาย สิ้นประมุขพรรคฟ้าดินไม่นาน"เตียบ่อหลัน"ก็พา "18-1 อรหันต์"หลบเร้น แม้นผ่านไป 7 ราตรี มิปรากฏกายแห่ง"เตียบ่อหลัน"ยุทธ์จักรคงมีปัญหา...
บัดนี้ ตำแหน่ง"ตกโกวชิ้วป่าย"หรือฉายาภายในเรียกว่า"บูรพาไม่แพ้" ได้ตกเป็นของ"เตียบ่อหลัน"ผู้มีนามเดิมว่า"เปงติงสู"ไปโดยอัตโนมัติผ่านไปหลายราตรี ยังมิมีวี่แววของจอมกระบี่แซ่เตีย และบรรดาที่ปรึกษา..??!!
ที่น่าประหลาดใจไปยิ่งกว่า คือบรรดาพี่ใหญ่แห่ง"ซาป้อเฮียบ"พลอยไร้วี่แวว ทั้งคู่ต่างหายจากยุทธ์จักรอย่างไม่ทราบที่ไป และไร้กำหนดมาหาตัวไม่เห็น หากเป็นเช่นนี้จนครบ 7 ราตรียังมิมีฝ่ายใดโผล่กายยุทธ์จักรวอดวายแน่...
ล่วงมาเนินช้า ทั้งเหลา"18-1 อรหันต์"ผู้มี"เตียบ่อหลัน"เป็นหัวหน้า อีกฝ่าย คือ สำนักคุ้มภัย"ซาป้าเฮียบ"อันมีพี่ใหญ่นามว่า"ถังปอตือ" ทั้งคู่ต่าง"ซ่อนดาบในรอยยิ้ม"ภายนอกดูสง่า ภายในกลับส่อแววเข่นฆ่า
ต่างจ้องหาโอกาสกำจัดกันและกัน อันเป็นที่ทราบของเหลาจอมยุทธ์ นาทีระทึกเมื่อครบกำหนดเวลา"ตั้งประมุขฟ้าดิน"ผู้มาใหม่... แต่จนบัดนียังไร้ผู้มีอำนาจที่ได้รับการถ่ายทอด อีกทั้งผู้พิทักษ์กฏ...!!!
ล่วงเวลามาถึง"สามราตรี"ยังไร้วีแววการตั้งประมุขพรรค อีกทั้งผู้พิทักษ์กฏ และเหลา"18-1 อรหันต์"ภายใต้การนำ"ต๊กโกชิ้วป่าย" ตำแหน่งประมุขพรรคที่ว่างก็ไร้การแต่งตั้ง "อ่วงเล่งเกี้ย"ผู้มีสิทธิ์แต่กลับปฏิเสธ
เหตุการณ์ภายในกำแพงใหญ่ เบื้องนอกดูสดใส แต่เบื้องในกลับคุกรุ่น...หากดำเนินเช่นนี้ต่อไปย่อมสร้างความระส่ำระสายแก่ยุทธ์ภพ...เมื่อผู้มีสิทธิ์แต่กลับปฏิเสธ ผู้มีหน้าที่กลับเร้นกาย ความวุ่นวายตั้งเค้าอยู่เบื้องหน้า
กล่าวฝ่าย"เตียบ่อหลัน" หรือนามเดิมว่า"เปง ติงสู"ผู้มีคำภีร์นพเก้าเป็นอาวุธ ผู้สามารถบรรลุวิทยายุทธ์นี้ได้ ต้องเฉีอนอวัยวะความเป็นชายแห่งตนเสียก่อน จึงสามารถใช้เพลงยุทธ์ได้ดังใจไร้ผู้ต้าน ด้วยอำนาจแห่ง"เกาอิมจินเกง"...
...
ทั่วเหนือใต้"เตียบ่อหลัน"ปราบปรามมาแล้วทั้งสิ้นไร้ผู้ต่อกร จึงได้รับฉายาต่อมาว่า"บุรพาไม่แพ้ ต๊กโกวฉีวป้าย"...มารผู้นี้มีบุตรบุญธรรมอยู่มากมาย แต่แปลกใจ ลูกทั้งหลายถูกกำจัด
...
คนแล้วคนเล่าที่สมัครมาเป็นบุตรบุณธรรม ล้วนถูกกำจัดยามบั้นปลาย ที่ผ่านมาเป็นเช่นนี้แต่มีมีผู้เข็ดขยาด ยังคงดาหน้าสวามิภักดิ์ยอมเป็นลูก ตัวอย่างมีอยู่มากมายที่ตายตกไปกองกระดูกสูงเพียงภูเขา แต่ยังมีผู้เข้าแถวรอเป็นบุตร...!!
...
ทั่วเหนือใต้"เตียบ่อหลัน"ปราบปรามมาแล้วทั้งสิ้นไร้ผู้ต่อกร จึงได้รับฉายาต่อมาว่า"บุรพาไม่แพ้ ต๊กโกวฉีวป้าย"...มารผู้นี้มีบุตรบุญธรรมอยู่มากมาย แต่แปลกใจ ลูกทั้งหลายถูกกำจัด
...
คนแล้วคนเล่าที่สมัครมาเป็นบุตรบุณธรรม ล้วนถูกกำจัดยามบั้นปลาย ที่ผ่านมาเป็นเช่นนี้แต่มีมีผู้เข็ดขยาด ยังคงดาหน้าสวามิภักดิ์ยอมเป็นลูก ตัวอย่างมีอยู่มากมายที่ตายตกไปกองกระดูกสูงเพียงภูเขา แต่ยังมีผู้เข้าแถวรอเป็นบุตร...!!
แต่"ป๋า"เงียบไปนี่ อันตรายนะ ขอบอก หากพ้น 3 ราตรียังไม่ออกมาคำนับ...เตรียมตัวกันได้ เลือดท่วมท้องช้างแน่...
เมื่อเอ่ยถึง"เตียบ่อหลัน"ย่อมขาดการกล่าวขวัญที่ผู้หนุนหลังจอมมารมิได้ประกอบไปด้วยพ่อค้าหมู่เห็ดเป็ด ไก่ อีกทั้งเจ้าของโรงสุรา "ผู้ได้สัญญาพิเศษ" อีกเหลาผู้ค้าตั๋วเงิน และสำนักคุ้มภัยในใต้หล้า และยังมีผู้ค้าน้ำตาลกลุ่มใหญ่
...
อาศัยเส้นสายภายในผ่านทาง"อรหันต์ 18-1"เป็นช่องทางหาประโยชน์ บรรดาพ่อค้าผู้โสมมเมื่อได้สิทธิผลตอบแทน พวกมันก็อวยชัย...ต่างถ่อยทีถ่อยอาศัยแบ่งปัน บ้างอวยยศบ้างอวยชัย บ้างชี้ช่อง
...
สร้างความชอกช้ำแก่มวลมหาประชาชนในใต้หล้าด้วยรีดนาทาเร้น ทั้งเวียงวัง คลังนา และ การหยิบสิบ เหยียบย่ำบนรากหญ้า เมื่อมีผู้มาแก้ไขจึงสร้างความไม่พอใจแก่กลุ่มผลประโยชน์เก่า
...
จึงผู้มาใหม่ต้องถูกตามเข่นฆ่า ดั่งสายตาของทุกผู้ที่แลเห็น ที่น่าแปลกใจคือ ทำไมยังมีผู้เห็นคล้อย พลอยพยัคไปเข้าด้วย ขับไล่ผู้สร้างคุณ พิทักษ์ผู้กังฉินให้อยู่ดีมีพลัง พวกมันบ้าไปหรือไม่...!!!
...
...
อาศัยเส้นสายภายในผ่านทาง"อรหันต์ 18-1"เป็นช่องทางหาประโยชน์ บรรดาพ่อค้าผู้โสมมเมื่อได้สิทธิผลตอบแทน พวกมันก็อวยชัย...ต่างถ่อยทีถ่อยอาศัยแบ่งปัน บ้างอวยยศบ้างอวยชัย บ้างชี้ช่อง
...
สร้างความชอกช้ำแก่มวลมหาประชาชนในใต้หล้าด้วยรีดนาทาเร้น ทั้งเวียงวัง คลังนา และ การหยิบสิบ เหยียบย่ำบนรากหญ้า เมื่อมีผู้มาแก้ไขจึงสร้างความไม่พอใจแก่กลุ่มผลประโยชน์เก่า
...
จึงผู้มาใหม่ต้องถูกตามเข่นฆ่า ดั่งสายตาของทุกผู้ที่แลเห็น ที่น่าแปลกใจคือ ทำไมยังมีผู้เห็นคล้อย พลอยพยัคไปเข้าด้วย ขับไล่ผู้สร้างคุณ พิทักษ์ผู้กังฉินให้อยู่ดีมีพลัง พวกมันบ้าไปหรือไม่...!!!
...
ขอจงเตรียมข้าวสารอาหารแห้งมารอไว้ ได้ใช้แน่...
...
ก่อนคลื่นจัดพายุแรง ทะเลแลดูสงบ...ทางใต้เขาเรียกว่า"อุกาฟ้าเหลือง"วันพายุใหญ่ ยุทธ์ภพจะอยู่รอดปลอดภัยหรือย่อยยับ ให้จับตาภายใน 7 ราตรี...!!!
( หมายเหตุ-คำเตือนนิยายคือนิยายห้ามมโนตามเด็ดขาด ควรตั้งสติใช้ชีวิตไปตามปกติธรรมดาติดตามข่าวสารบ้านเมืองอย่างใกล้ชิด ดูแลตัวเองเตรียมตัวพร้อมตั้งอยู่ในความไม่ประมาทอย่าวิตกจริตไปกับเรื่องภายในกำแพงใหญ่จนเกินเหตุ
โปรดใส่ใจช่วยกันชี้นำเป็นแสงสว่างนำทาง"ติดอาวุธทางปัญญา"นำเรื่องราวความจริงให้ความรู้แก่คนในสังคมข้างนอกกำแพงใหญ่เพื่อได้รู้ได้เข้าใจสภาพความเป็นจริงของสังคมไทย"ช่วงเปลี่ยนผ่าน"
เพื่อจะได้ยกระดับพัฒนาตัวเองปรับปรุงแนวคิดตัวเองให้ก้าวทันอยู่ได้กับยุคสมัย อย่าลืมสังคมไทยจะพัฒนาขับเคลื่อนผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้ขึ้นอยู่กับประชาชนไทยทั้งประเทศร่วมมือกันเท่านั้น )
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar