fredag 7 augusti 2015

ข่าว บีบีซีไทย - BBC Thai

บีบีซีไทย - BBC Thais foto.
ศาลทหารตัดสินจำคุกหนุ่มเมืองกาญจน์ 30 ปี ผิดมาตรา 112
เว็บไซต์ไอลอว์รายงานว่า ศาลทหารมีคำสั่งพิพากษาจำคุก พงษ์ศักดิ์ หรือผู้ใช้ชื่อในเฟซบุ๊กว่า Sam Parr เป็นเวลา 60 ปี จากกรณีโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก 6 ข้อความ (6 กรรม) ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา และมาตรา 14 (3) ของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่เนื่องจากจำเลยรับสารภาพ จึงลดโทษให้ครึ่งหนึ่ง เหลือโทษจำคุก 30 ปี ซึ่งถือเป็นโทษสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
พงษ์ศักดิ์ จำเลยในคดีนี้ ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2557 หลังจากมี...เพื่อนในเฟซบุ๊กซึ่งไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนนัดหมายให้มาพบที่พิษณุโลก เมื่อพงษ์ศักดิ์เดินทางมาถึงที่สถานีขนส่งก็ถูกจับกุม จึงเชื่อว่าเพื่อนในเฟซบุ๊กอาจเป็นเจ้าหน้าที่หรือเป็นสายให้เจ้าหน้าที่ หลังถูกจับกุมพงษ์ศักดิ์ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ค่ายทหาร 7 วัน ก่อนถูกนำตัวมาฝากขังต่อศาลทหารกรุงเทพเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2558
ในคำฟ้องของอัยการทหารคดีนี้ระบุว่า พงษ์ศักดิ์เป็นผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Sam Parr" โพสต์ข้อความ พร้อมภาพพระบรมฉายาลักษณ์ เข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3) ทั้งหมด 6 ครั้ง ซึ่ง 4 ครั้งเป็นการโพสในเดือนกันยายน 2556 และอีก 2 ครั้งในเดือนพฤศจิกายน 2557
แม้ว่าข้อความที่ถูกฟ้อง 4 ข้อความ จะเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นก่อนการประกาศให้พลเรือนขึ้นศาลทหาร ซึ่งโดยทั่วไปการกระทำเหล่านี้ต้องดำเนินคดีที่ศาลพลเรือน แต่ในคำฟ้องระบุว่าข้อความทั้ง 6 ยังปรากกฏอยู่บนเฟซบุ๊กจนถึงวันที่พงษ์ศักดิ์ถูกจับกุม ซึ่งเป็นการตีความว่าการโพสข้อความเป็นการกระทำความผิดต่อเนื่องมาจนหลังวันที่มีประกาศให้พลเรือนขึ้นศาลทหารด้วย ทำให้ศาลทหารมีอำนาจพิจารณาการโพสต์ทั้ง 6 ข้อความในคดีนี้
ตั้งแต่ถูกจับกุมพงษ์ศักดิ์ยังไม่เคยยื่นขอประกันตัว และถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมาตลอด
พงษ์ศักดิ์ เป็นชาวจังหวัดกาญจนบุรี อาชีพตัวแทนบริษัทนำเที่ยว เคยมีชื่อในคำสั่งเรียกบุคคลรายงานตัวของ คสช. ฉบับที่ 58/2557 แต่ไม่ได้ไปรายงานตัวตามกำหนด ก่อนหน้าคดีนี้พงษ์ศักดิ์เคยถูกดำเนินคดีฐานไม่มารายงานตัวตามคำสั่งคสช. มาแล้ว ซึ่งศาลทหารพิพากษาให้ จำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี
(ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ)


.................................................................................


เหตุใดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถึงเผชิญอุทกภัยและภัยแล้งในเวลาเดียวกัน
บีบีซีไทย - BBC Thais foto.


นักวิทยาศาสตร์เผย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เจอทั้งน้ำท่วมและภัยแล้งพร้อมกัน เป็นเพราะลมมรสุมจากอินเดียทวีความรุนแรงขึ้นจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน ทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ ขณะที่บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกในเขตเส้นศูนย์สูตรก็มีอุณหภูมิสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดภัยแล้งรุนแรงในพื้นที่แถบตะวันออกของภูมิภาคเช่นกัน
ปัจจุบันเมียนมาร์ เวียดนาม หลายพื้นที่ในไทย และในรัฐเบงกอลตะวันตกของอินเดีย กำลังเผชิญปัญหาฝนตกหนักและน้ำท...่วม ขณะเดียวกันก็เกิดภัยแล้งรุนแรงในหลายพื้นที่ในอินโดนีเซีย และภาคเหนือของไทย นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า สภาพการณ์ที่ขัดแย้งกันดังกล่าว มาจากความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในมหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณเส้นศูนย์สูตรปีนี้ ซึ่งส่งผลต่อสภาพอากาศ ทำให้เกิดภัยแล้งในแถบตะวันออกของภูมิภาค ส่วนลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จากทะเลอาหรับที่พาดผ่านมหาสมุทรอินเดีย ได้นำพาฝนปริมาณมากไปยังเอเชียใต้และหลายพื้นที่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จนทำให้เกิดน้ำท่วมหนักด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ คาดว่าปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งตามปกติทำให้ฝนตกน้อยลง กลับทำให้พายุโซนร้อนในภูมิภาคทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากภาวะโลกร้อนทำให้มีการสะสมพลังงานความร้อนตามจุดต่างๆในบรรยากาศและท้องทะเล จนเกิดเป็นพลังงานที่หนุนให้ปรากฏการณ์ดังกล่าวมีความรุนแรงผิดปกติ
อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า สภาพอากาศที่ผันผวนหรือแตกต่างกันอย่างสุดขั้วในปัจจุบันนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ก็เตือนด้วยว่า สภาพอากาศสุดขั้วเช่นนี้จะยิ่งเลวร้ายลงในอนาคต หากยังคงมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจนทำให้ภาวะโลกร้อนดำเนินต่อไป

คลิกดูเพิ่ม-Visa mer

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar