รำลึก 70 ปีวันสันติภาพไทย มธ. เปิดป้ายอนุสรณ์จารึก “ประกาศสันติภาพในราชกิจจานุเบกษา”
16 สิงหาคม ของทุกปี เป็นอีกวันสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย เพราะวันนี้ เมื่อพ.ศ. 2488 หลวงประดิษฐ์มนูธรรม หรือนายปรีดี พนมยงค์ ได้ประกาศสันติภาพในนามผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เพื่อชี้แจงให้ประชาคมโลกรับทราบว่าการประกาศสงครามต่อสหรัฐอเมริกาและบริเตนใหญ่เป็นโมฆะ ไม่ผูกพันประชาชนชาวไทย เพราะฝ่าฝืนขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมายบ้านเมือง โดยหลักฐานที่สำคัญว่าประชาชนไทยไม่ยอมรับการประกาศสงคราม ก...็คือการจัดตั้งขบวนการเสรีไทยช่วยเหลือฝ่ายสัมพันธมิตรในการต่อสู้กับกองทัพญี่ปุ่นที่ยึดครองประเทศไทยอยู่ในระหว่างสงคราม
ผลของการประกาศดังกล่าว ทำให้ไทยไม่ตกเป็นประเทศผู้แพ้สงครามและหลีกเลี่ยงความสูญเสียจากการเป็นผู้แพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2
บ่ายวันนี้ ที่บริเวณลานประติมากรรม หน้าหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศ.ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มธ. ท่าพระจันทร์ พร้อมด้วยตัวแทนเสรีไทยและทายาทของนายปรีดี พนมยงค์ ได้ร่วมกันเปิดป้ายอนุสรณ์จารึก “ประกาศสันติภาพในราชกิจจานุเบกษา” ซึ่งบรรจุเนื้อหาของการประกาศสันติภาพเมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2488 พร้อมวางดอกไม้คารวะเสรีไทยและผู้เสียชีวิตระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่ามกลางผู้เข้าร่วมราวร้อยคน รวมทั้งอดีตอธิการบดี มธ. นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ และเอกอัครราชทูตโปรตุเกสประจำประเทศไทย ด้วย
บ่ายวันนี้ ที่บริเวณลานประติมากรรม หน้าหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศ.ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มธ. ท่าพระจันทร์ พร้อมด้วยตัวแทนเสรีไทยและทายาทของนายปรีดี พนมยงค์ ได้ร่วมกันเปิดป้ายอนุสรณ์จารึก “ประกาศสันติภาพในราชกิจจานุเบกษา” ซึ่งบรรจุเนื้อหาของการประกาศสันติภาพเมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2488 พร้อมวางดอกไม้คารวะเสรีไทยและผู้เสียชีวิตระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่ามกลางผู้เข้าร่วมราวร้อยคน รวมทั้งอดีตอธิการบดี มธ. นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ และเอกอัครราชทูตโปรตุเกสประจำประเทศไทย ด้วย
รือเสาะ นราธิวาส: ยาเสพติดระบาดหนักชาวบ้านทนไม่ไหวจัดการกันเอง
บนถนนเส้นเล็กร่มรื่น เลี้ยวโค้งเลยสะพานสู่ทางเข้าบ้านหมู่ 3 บ้านบาตง เช้าวันนี้ปรากฎด่านพร้อมซุ้มข้างทางขึ้นมาพร้อมกับกลุ่มคนอีกจำนวนกว่าสิบนั่งเฝ้ากันเต็มข้างทาง ในซุ้มไม่มีเจ้าหน้าที่ มีแต่ชาวบ้านที่ประกอบด้วยวัยรุ่นไปจนถึงคนวัยกลางคน พวกเขาเรียกรถมอเตอร์ไซค์คันแล้วคันเล่าที่วิ่งเข้าสู่หมู่บ้านให้จอดเมื่อมาถึงด่าน คนที่ถูกเรียกจะถูกสอบถามว่าจะไปไหน
บนถนนเส้นเล็กร่มรื่น เลี้ยวโค้งเลยสะพานสู่ทางเข้าบ้านหมู่ 3 บ้านบาตง เช้าวันนี้ปรากฎด่านพร้อมซุ้มข้างทางขึ้นมาพร้อมกับกลุ่มคนอีกจำนวนกว่าสิบนั่งเฝ้ากันเต็มข้างทาง ในซุ้มไม่มีเจ้าหน้าที่ มีแต่ชาวบ้านที่ประกอบด้วยวัยรุ่นไปจนถึงคนวัยกลางคน พวกเขาเรียกรถมอเตอร์ไซค์คันแล้วคันเล่าที่วิ่งเข้าสู่หมู่บ้านให้จอดเมื่อมาถึงด่าน คนที่ถูกเรียกจะถูกสอบถามว่าจะไปไหน
“พอเห็นหน้านี่เรารู้เลยว่าใครเป็นคนนอกใครเป็นคนใน เราก็ถามกันตรงๆเลย” ฮาแว กอแล็ง ผู้ใหญ่บ้านที่อยู่ในหมู่ชาวบ้านที่ไปช่วยกันตั้งด่านเกินสิบคนเล่า “ถ้าเขาบอกว่าจะไปเยี่ยมญาติเราก็ปล่อย แต่ถ้าบอกว่าไปกินน้ำกระท่อม เราจะบอกเขาว่ามันปิดละ เข้าไม่ได้ ขอให้กลับไป” ผู้ใหญ่บ้านฮาแวบอกว่า ตั้งแต่ที่ตั้งด่านมาเช้าจนถึงใกล้เที่ยงมีมอเตอร์ไซค์ที่บรรทุกวัยรุ่นจำนวนไม่น้อยหันหลังกลับออกจากหมู่บ้านไปเกือบร้อย และว่า อันที่จริงแล้ว เมื่อก่อนจะมีมากกว่านี้ แต่ในช่วงวันสองวันนี้พวกเขาปล่อยข่าวออกไปว่าชาวบ้านจะห้ามคนนอกเข้าไปกินน้ำกระท่อมในหมู่บ้าน ทำให้จำนวนลดฮวบจากปกติที่เคยเข้าหมู่บ้าน
บ้านหมู่ 3 บ้านบาตงเป็นหมู่บ้านเล็กๆในอำเภอรือเสาะ มีคนอยู่ราวๆ 130 ครัวเรือน อาสาสมัครหลายคนบอกว่า ที่ผ่านมามอเตอร์ไซค์วิ่งเข้าหมู่บ้านนี้วันละหลายร้อยคัน เสียงลือเสียงเล่าอ้างดังไปไกลถึงตัวเมืองนราธิวาสที่อยู่ห่างออกไปมากโข บางรายมาไกลถึงยะลา แม้กระทั่งสะบ้าย้อยที่อยู่ค่อนไปทางพื้นที่สงขลาก็มี “พวกเขาบอกว่า น้ำที่บ้านนี้กินอร่อย”
น้ำกระท่อมนั้นชาวบ้านเล่าว่า แต่ละคนมีสูตรพิเศษ และของบ้านหมู่ 3 เลื่องชื่อดึงดูดคนเข้าไปเสพ ในหมู่บ้านมีคนต้มน้ำกระท่อมรวมๆแล้วสิบราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตรายย่อย
“เราไม่ได้ห้ามไม่ให้เขาทำ เขาจะทำจะกินก็แล้วแต่เขา เราไม่ว่า แต่เราไม่ให้คนนอกเข้าไปกินแล้ว” ผู้ใหญ่ฮาแวว่า เขาบอกว่า คนต้มน้ำกระท่อมในหมู่บ้านทำกันมากขึ้นเพราะขายได้ดี ชาวบ้านอึดอัดกับเรื่องนี้มานานมากแล้วแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ทุกฝ่ายเป็นห่วงเยาวชน อิหม่ามมะสากอรี ดอเลาะ บอกว่า หากไม่แก้ปัญหาวันนี้ปัญหาจะสะสมขึ้นอีกมากจนแก้ไขไม่ได้ในวันหน้า ทุกวันนี้ยาเสพติดระบาดจนแม้แต่ศาสนาก็ไม่สามารถฉุดรั้งเอาไว้ได้ คนติดยาส่วนใหญ่คือวันรุ่นอายุตั้งแต่สิบห้าขึ้นไป แต่อายุมากขนาด 50 ปีก็มี แม้ว่าครอบครัวจะตักเตือน และผู้นำศาสนาจะพยายาม แต่ก็ช่วยแก้ไขหรือป้องกันได้น้อยมาก ปัญหาสำคัญคือเมื่อติดแล้วมักจะเลิกยาก
อาสาสมัครที่ช่วยดูแลด่านบอกว่า คนที่เข้าสู่หมู่บ้านเพื่อเสพน้ำกระท่อมมีถึงขั้นผู้ใหญ่บ้าน นายกอบต. นักศึกษาก็มี
ในส่วนของคนขาย ผู้ใหญ่ฮาแวบอกว่า ได้มีการตกลงกันแล้วว่า บรรดาคนต้มน้ำกระท่อมสูตรพิสดารในหมู่บ้านที่มีนับสิบรายนั้นจะ “ทำตามความต้องการของคนในหมู่บ้าน” เขาเชื่อว่า หากมีการตั้งด่านห้ามไม่ให้คนนอกเข้าไปเสพน้ำกระท่อมได้ นานเข้าการผลิตก็คงจะเฉาไปเอง เมื่อถามว่าชาวบ้านไม่เกรงกลัวหรือ เขาบอกว่า เป็นเรื่องที่อาสาสมัครทุกคนสมัครใจทำเอง
ปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านทำให้ชาวบ้านหมู่ 3 บ้านบาตงเห็นปัญหาและผลกระทบมานานพอสมควรจนพวกเขาทนไม่ได้ อาสาสมัครหลายคนเล่าว่า สภาพการเสพและติดยาเสพติดในหมู่บ้านที่ทำให้คนในหมู่บ้านเห็นว่าปัญหานี้เป็นเรื่องเร่งด่วนและร้ายแรงมากก็คือในช่วงเดือนถือศีลอด “ขณะนี้ที่ชาวบ้านกำลังถือศีลอด ก็มีวัยรุ่นจากนอกหมู่บ้านเข้ามา ไม่ถือศีลอด แล้วก็กินน้ำกระท่อม เสพยาในหมู่บ้านกันอย่างโจ๋งครึ่ม” ส่วนผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน รัมลี กอแล็งเล่าว่า เมื่อไม่นานมานี้ก็มีคนเข้าไปเสพน้ำกระท่อมแล้วไปนอนในมัสยิด
ชาวบ้านก็ชักชวนกันเปิดประชุมพูดคุยเพื่อหาทางแก้ปัญหาเมื่อคืนวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา “เราก็ประกาศไปว่าใครที่ไม่สนับสนุนยาเสพติดก็ให้มาประชุม เราไม่ได้บังคับ” ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเล่า เขาบอกว่ามีคนไปประชุมประมาณ 250 คนที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน และตกลงกันว่าให้ตั้งด่าน มาตรการนี้พวกเขาอาสาสมัครที่จะร่วมมือกันจัดการเองเพราะเชื่อว่าจะทำงานได้เร็ว บางคนชี้ว่าเดิมทีที่ผ่านมาเมื่อไหร่ที่มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ขยับจะเข้ามาดำเนินการ การขายน้ำกระท่อมในหมู่บ้านก็จะเงียบหายไปทันทีทำให้ไม่สามารถจัดการอะไรได้มาก มาตรการตั้งด่านกันคนเข้าหมู่บ้านไปกินน้ำกระท่อมนี้ อาสาสมัครหลายคนหวังว่าจะทำให้หมู่บ้านของพวกเขาเป็นตัวอย่างให้กับอีกหลายหมู่บ้านในการแก้ปัญหายาเสพติด
ผู้ใหญ่ฮาแวเล่าด้วยว่า นอกจากการตั้งด่านแล้ว ยังมีอีกมาตรการหนึ่งที่กำลังเตรียมจะดำเนินการกัน เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการในโครงการญานันลันบารู คือการตรวจสอบครัวเรือนต่างๆในหมู่บ้านทุก 6 เดือน เพื่อประเมินแต่ละครัวเรือน ครัวเรือนไหนไม่มีปัญหายาเสพติดจะมีการมอบธงขาวให้ “ถ้ามีบ้านไหนที่มีคนติดยาเพียงแต่คนเดียว หรือเกี่ยวข้องเรื่องยา เราก็ไม่ให้” เขาบอกว่าจะเริ่มดำเนินการในเร็วๆนี้
ที่ผ่านมาหลายฝ่ายระบุว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ของพื้นที่สามจังหวัด
“พอเห็นหน้านี่เรารู้เลยว่าใครเป็นคนนอกใครเป็นคนใน เราก็ถามกันตรงๆเลย” ฮาแว กอแล็ง ผู้ใหญ่บ้านที่อยู่ในหมู่ชาวบ้านที่ไปช่วยกันตั้งด่านเกินสิบคนเล่า “ถ้าเขาบอกว่าจะไปเยี่ยมญาติเราก็ปล่อย แต่ถ้าบอกว่าไปกินน้ำกระท่อม เราจะบอกเขาว่ามันปิดละ เข้าไม่ได้ ขอให้กลับไป” ผู้ใหญ่บ้านฮาแวบอกว่า ตั้งแต่ที่ตั้งด่านมาเช้าจนถึงใกล้เที่ยงมีมอเตอร์ไซค์ที่บรรทุกวัยรุ่นจำนวนไม่น้อยหันหลังกลับออกจากหมู่บ้านไปเกือบร้อย และว่า อันที่จริงแล้ว เมื่อก่อนจะมีมากกว่านี้ แต่ในช่วงวันสองวันนี้พวกเขาปล่อยข่าวออกไปว่าชาวบ้านจะห้ามคนนอกเข้าไปกินน้ำกระท่อมในหมู่บ้าน ทำให้จำนวนลดฮวบจากปกติที่เคยเข้าหมู่บ้าน
บ้านหมู่ 3 บ้านบาตงเป็นหมู่บ้านเล็กๆในอำเภอรือเสาะ มีคนอยู่ราวๆ 130 ครัวเรือน อาสาสมัครหลายคนบอกว่า ที่ผ่านมามอเตอร์ไซค์วิ่งเข้าหมู่บ้านนี้วันละหลายร้อยคัน เสียงลือเสียงเล่าอ้างดังไปไกลถึงตัวเมืองนราธิวาสที่อยู่ห่างออกไปมากโข บางรายมาไกลถึงยะลา แม้กระทั่งสะบ้าย้อยที่อยู่ค่อนไปทางพื้นที่สงขลาก็มี “พวกเขาบอกว่า น้ำที่บ้านนี้กินอร่อย”
น้ำกระท่อมนั้นชาวบ้านเล่าว่า แต่ละคนมีสูตรพิเศษ และของบ้านหมู่ 3 เลื่องชื่อดึงดูดคนเข้าไปเสพ ในหมู่บ้านมีคนต้มน้ำกระท่อมรวมๆแล้วสิบราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตรายย่อย
“เราไม่ได้ห้ามไม่ให้เขาทำ เขาจะทำจะกินก็แล้วแต่เขา เราไม่ว่า แต่เราไม่ให้คนนอกเข้าไปกินแล้ว” ผู้ใหญ่ฮาแวว่า เขาบอกว่า คนต้มน้ำกระท่อมในหมู่บ้านทำกันมากขึ้นเพราะขายได้ดี ชาวบ้านอึดอัดกับเรื่องนี้มานานมากแล้วแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ทุกฝ่ายเป็นห่วงเยาวชน อิหม่ามมะสากอรี ดอเลาะ บอกว่า หากไม่แก้ปัญหาวันนี้ปัญหาจะสะสมขึ้นอีกมากจนแก้ไขไม่ได้ในวันหน้า ทุกวันนี้ยาเสพติดระบาดจนแม้แต่ศาสนาก็ไม่สามารถฉุดรั้งเอาไว้ได้ คนติดยาส่วนใหญ่คือวันรุ่นอายุตั้งแต่สิบห้าขึ้นไป แต่อายุมากขนาด 50 ปีก็มี แม้ว่าครอบครัวจะตักเตือน และผู้นำศาสนาจะพยายาม แต่ก็ช่วยแก้ไขหรือป้องกันได้น้อยมาก ปัญหาสำคัญคือเมื่อติดแล้วมักจะเลิกยาก
อาสาสมัครที่ช่วยดูแลด่านบอกว่า คนที่เข้าสู่หมู่บ้านเพื่อเสพน้ำกระท่อมมีถึงขั้นผู้ใหญ่บ้าน นายกอบต. นักศึกษาก็มี
ในส่วนของคนขาย ผู้ใหญ่ฮาแวบอกว่า ได้มีการตกลงกันแล้วว่า บรรดาคนต้มน้ำกระท่อมสูตรพิสดารในหมู่บ้านที่มีนับสิบรายนั้นจะ “ทำตามความต้องการของคนในหมู่บ้าน” เขาเชื่อว่า หากมีการตั้งด่านห้ามไม่ให้คนนอกเข้าไปเสพน้ำกระท่อมได้ นานเข้าการผลิตก็คงจะเฉาไปเอง เมื่อถามว่าชาวบ้านไม่เกรงกลัวหรือ เขาบอกว่า เป็นเรื่องที่อาสาสมัครทุกคนสมัครใจทำเอง
ปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านทำให้ชาวบ้านหมู่ 3 บ้านบาตงเห็นปัญหาและผลกระทบมานานพอสมควรจนพวกเขาทนไม่ได้ อาสาสมัครหลายคนเล่าว่า สภาพการเสพและติดยาเสพติดในหมู่บ้านที่ทำให้คนในหมู่บ้านเห็นว่าปัญหานี้เป็นเรื่องเร่งด่วนและร้ายแรงมากก็คือในช่วงเดือนถือศีลอด “ขณะนี้ที่ชาวบ้านกำลังถือศีลอด ก็มีวัยรุ่นจากนอกหมู่บ้านเข้ามา ไม่ถือศีลอด แล้วก็กินน้ำกระท่อม เสพยาในหมู่บ้านกันอย่างโจ๋งครึ่ม” ส่วนผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน รัมลี กอแล็งเล่าว่า เมื่อไม่นานมานี้ก็มีคนเข้าไปเสพน้ำกระท่อมแล้วไปนอนในมัสยิด
ชาวบ้านก็ชักชวนกันเปิดประชุมพูดคุยเพื่อหาทางแก้ปัญหาเมื่อคืนวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา “เราก็ประกาศไปว่าใครที่ไม่สนับสนุนยาเสพติดก็ให้มาประชุม เราไม่ได้บังคับ” ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเล่า เขาบอกว่ามีคนไปประชุมประมาณ 250 คนที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน และตกลงกันว่าให้ตั้งด่าน มาตรการนี้พวกเขาอาสาสมัครที่จะร่วมมือกันจัดการเองเพราะเชื่อว่าจะทำงานได้เร็ว บางคนชี้ว่าเดิมทีที่ผ่านมาเมื่อไหร่ที่มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ขยับจะเข้ามาดำเนินการ การขายน้ำกระท่อมในหมู่บ้านก็จะเงียบหายไปทันทีทำให้ไม่สามารถจัดการอะไรได้มาก มาตรการตั้งด่านกันคนเข้าหมู่บ้านไปกินน้ำกระท่อมนี้ อาสาสมัครหลายคนหวังว่าจะทำให้หมู่บ้านของพวกเขาเป็นตัวอย่างให้กับอีกหลายหมู่บ้านในการแก้ปัญหายาเสพติด
ผู้ใหญ่ฮาแวเล่าด้วยว่า นอกจากการตั้งด่านแล้ว ยังมีอีกมาตรการหนึ่งที่กำลังเตรียมจะดำเนินการกัน เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการในโครงการญานันลันบารู คือการตรวจสอบครัวเรือนต่างๆในหมู่บ้านทุก 6 เดือน เพื่อประเมินแต่ละครัวเรือน ครัวเรือนไหนไม่มีปัญหายาเสพติดจะมีการมอบธงขาวให้ “ถ้ามีบ้านไหนที่มีคนติดยาเพียงแต่คนเดียว หรือเกี่ยวข้องเรื่องยา เราก็ไม่ให้” เขาบอกว่าจะเริ่มดำเนินการในเร็วๆนี้
ที่ผ่านมาหลายฝ่ายระบุว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ของพื้นที่สามจังหวัด
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar