tisdag 11 augusti 2015

เปิดเผยความจริงของแถลงการณ์ฉบับที่14 เรื่องอาการป่วยของภูมิพล

ข่าวลับกรองแล้ว12สิงหาคม2558 
"ทรงพระเฉือนคม"คนหนึ่งทำให้แม่แต่คู่แข่งทำให้พ่อกับแม่ดูแน่กว่า

สืบความลับจับมาตีแผ่เผยแพร่เป็นประจำในขบวนการประชาธิปไตยไทยในสแกนดิเนียเวียโดยกลุ่มเสียงประชาชนไทย(สปท.)  http://thaiscandemo.blogspot.com/

*ที่หายไป2เดือนมิใช่อะไรแต่จะวัดใจความอึดและความด้านของหมอศิริราชกับสำนักพระราชวังว่าจะหน้าด้านหน้าทนไม่บอกความความจริงกับประชาชนว่าภูมิพลเป็นผักไปแล้วได้นานสักเท่าไรทั้งๆที่ใครก็แทงไฮโลถูกหมดทุกคนว่าอาการภูมิพลออกต่ำแน่ๆไม่มีออกสูงแล้ว
 *และแล้วก็อึดอยู่ได้ 2 เดือนกับ 10 วันแถลงการณ์ฉบับที่ 14 ก็ออกมาหลอกต่อว่าสุขภาพดีแต่ต้องเจาะเอาน้ำออกจากสมอง (อาการไข้คนไม่ใกล้ตายไม่มีแบบนี้)... สปท.ขอบอกตรงไปตรงมาว่านะบัดนาวเจ้าใหญ่ได้กลายเป็นผักแล้วส่วนจะกลายเป็นผักดองเค็ม10 ปีแบบสังฆราชญานสังวร หรือผักเน่าแบบธรรมชาติ แต่ขอบอกว่าเป็นเรื่องยากเพราะไม่ว่าจะเป็นผักแบบใดแต่ละฝ่ายก็จะได้ประโยชน์ไม่เหมือนกัน แต่ผลที่ได้แน่ๆบนความขัดแย้งมี  2 กลุ่มที่ได้คือกลุ่ม คสช.ได้ประโยชน์จากอำนาจไปเรื่อยๆเต็มๆโดยไม่เลือกตั้ง ส่วนอีกกลุ่มคือประชาชนได้แน่คือความฉิบหายไปเต็มๆจากเศรษฐกิจแบบอาการภูมิพล
*เรื่องนี้ "ไอ้โล้นเทือก" กับสว. 40 และ คสช.รู้ดีจึงโยนลูกไปมาเรื่องปฏิรูปการเมืองกับเรื่อง "รัดทำมะนวย" เพราะหากดองเค็มก็มีวิกฤติลูกชายลูกสาวไปอีกนาน แต่ถ้าหากให้ผักเน่า คสช. ก็จะอยู่นานเพื่อจัดงานศพมาราธอนต่อไป

*เพื่อความมั่นใจสปท.ขอรายงานพระอาการเพิ่มเติมจากสำนักพระราชวัง (ประตูหลัง) ดังนี้... เนื่องจากการทำ V.P.Shunt (Ventriculo Peritoneum Shunt) คือการฝังท่อระบายน้ำจากช่องสมองเข้าสู่ช่องท้องที่เคยทำมาแล้วหลายปีเกิดปัญหาตันและปัญหาของเนื้อสมองเสื่อมอีกด้วยจำเป็นต้องยกเครื่องใหม่ (คนปกติในช่องสมองน้ำจะระบายออกและซึมกลับไปตามปกติ) และอาการน้ำคั่งในสมองทำให้เกิดความจำเลอะเลือน ปวดหัวและมีอาการหลับไม่ค่อยตื่น ประกอบกับอาการหายใจอ่อนปอดไม่ทำหน้าที่ปกติจึงทำให้มีเสลดมากและคนไข้ทานข้าวเองไม่ได้ 100% แล้วล่าสุดได้ตัดสินใจให้อาหารทางสายยางทางช่องจมูก (N.G.pipe)แต่ยังจำกัดการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำเพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้โดยง่ายและเลิกการให้ทางปากแล้วเพราะป้อนเข้าไปแต่ร่างกายไม่รับแล้วเกิดอาการสำลักออกบ่อยๆเพราะถ้ายังทำต่อไปจะอันตรายเนื่องจากคนไข้มีอาการหลับต่อเนื่องอาการสำลักอาจจะทำให้อาหารอุดหลอดลมจะมีโอกาสตายทันทีได้...
 เรื่องใหญ่วันนี้คือหายใจไม่ออกเพราะเสล็ดพันคอมากและหลับเกือบทั้งวันต้องเขย่าตัวเกือบทุกวัน บางวันเขย่ากันแรงมากจำเป็นจะต้องเจาะคอแต่ก็ถกเถียงกันว่ายังอาจจะต้องเข็นหัวผักออกมาโชว์ถ้าจำเป็นจริงๆเพื่อร้องเพลง "ฉันยังอยู่ ยังอยู่คอยขู่คุณอยู่เสมอ"  จึงกลัวว่าจะดูไม่สมบทบาทคนปกติเพราะต้องเอาผ้าพันคอปิดไว้เพราะเจาะคอไม่เหมือนเจาะเลือดจะได้ชักเข็มเข้าชักเข็มออกได้แต่เจาะคอเจาะแล้วเจาะเลยต้องคาสายไว้วันนี้ที่ผ่านมาต้องใช้วิธีดูดเสลดทำบ่อยๆเข้าก็เจ็บอักเสบจนทนไมไหวส่วนหมอก็แถลงข่าวหลอกๆ แบบโลกสวยว่าใช้วิธีกายภาพบำบัดแต่ไม่บอกว่าบำบัดอย่างไร (เฉลยคือ...การใช้มือปั้มปอดเป็นระยะเพื่อบริหารเสลดจากการหายใจ...ว่าจริงๆก็ไม่มีผลอะไรมาก)...เรื่องใหญ่จึงกลายเป็นว่าไม่มีใครกล้าตัดสินใจวันนี้ที่จะให้เจาะคอและแถลงการณ์ฉบับที่14 ภาษาหมอเรียกว่า"แถลงการณ์ทัมจาย" เพราะใกล้แล้ว
*เรื่องโชว์ตัวแบบรถเข็นเบนเฮอร์เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แล้วไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆตามที่สปท.ได้รายงานไปแล้วตามฉบับที่ 13มิถุนา58ว่า "อย่าหวังจะเห็นนั่งรถเข็นเบนเฮอร์อีกต่อไป"

*ใครจะทำใจก็ทำไป แต่ 2 คนนี้กำลังทำกำไรทางใจกับประชาชนไม่หยุดหย่อน, เสี่ยโอจัดงานใหญ่ "ไบค์ฟอร์มัม" ปั่นเพื่อแม่โดยสายคสช.ประยุทธทำพิธีจุดพลุให้เต็มที่เพื่อขอแลกกับอำนาจดวงตราลายเซนต์ปรมาภิไธยให้น้องชายเป็นผบ.ทบ.  ส่วนเทพถ่างก็ไม่เบาเปิดรับบริจาคเงินออนไลน์ทั่วประเทศโดยหักลดหย่อนภาษีได้เพื่อเอาไปสร้างหอเฉลิมพระเกียรติ์ราชาภิเษกสมรส หนุนเนื่องโดยมูลนิธิ 5 ธันวามหาราชคอนเนคชั่นจุฬา...ราชาศัพท์เรียกว่า "ทรงพระเฉือนคม"
 *ใครที่เที่ยวชอบโพนทนาว่าวังเขาดีกันแบ่งเค๊กเรียบร้อยแล้วช่วยอธิบายปรากฎการณ์นี้ให้ฟังหน่อย
1) โครงการไบค์ฟอร์มัมของพี่ทำไมน้องถ่างไม่ไปร่วมขี่ด้วยทั้งๆที่เคยขี่จักรยานในงานอื่นๆได้? หรือว่าไม่ใช่พ่อแม่เดียวกัน?
2) โครงการบริจาคเงินออนไลน์สร้างหอเฉลิมพระเกียรติ์งานสมรสพ่อแม่ของน้องถ่างทำไมพี่ชายไม่ร่วมด้วยทั้งๆที่ถนัดเรื่องการเรี่ยไร? หรือว่าไม่ใช่พ่อแม่เดียวกัน?
3)  28กรกฎางานวันเกิดพี่ชายน้องสาวก็ไม่ไปร่วม?
4) ไม่ว่างาน 1 งาน 2 งาน 3 ต่างก็ประกาศเรียกร้องให้ประชาชนเข้าร่วมแล้วทำไมพี่น้องกันเองไม่ไปร่วมด้วยของแต่ละงาน? ก็เห็นเรียกร้องให้ประชาชนสามัคคีแล้วทำไมพี่น้องไม่สามัคคีให้ประชาชนดู?

*เรื่องแปลกแต่จริงยิ่งน่าสงสัย...อาการป่วยของประธานสภาพรเพชรจากสายจุฬาขาถ่างได้รับแจกันดอกไม้จากกษัตริย์ภูมิพลและราชินี แต่อาการป่วยของทหารเสือราชินีกลับได้แต่แจกันดอกไม้จากฟ้าชาย...เผยความในได้ว่าเทพถ่างจัดให้เป็นกำลังใจเพราะพรเพชรเป็นทั้งผู้พิพากษาและอาสารับใช้ให้ทุกคดีที่ผ่านมาส่วนเจ้าของชื่อที่ถูกอ้างไม่รู้เรื่องเพราะหนูถ่างจัดอ้างเอง...ส่วนสายอำนาจ คสช.แม้จะเป็นทหารเสือราชินีแต่แต่กลับไม่มีแจกันราชินีให้มีแต่ของลูกชายจัดให้เอง...ชัดดีว่าวันนี้ คสช.วางนโยบายใกล้ชิดฟ้าชายว่าที่ร.10 ส่วนสภาก็ถ่างขารอ ร.10ขาถ่าง...ช่างสนุกแท้ๆ

*อีกงานขอตามแห่แต่ไม่รู้ที่มาที่ไปจะเข้าใจผิด...คือกรณีหมอณรงค์อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข (นกหวีดทองคำ) แต่ดันงัดข้อกับอธิการบดีมหิดลรัฐมนตรี (นกหวีดทองคำ) กระทรวงสาธารณสุขเด็กเทพถ่างทั้งคู่เกิดทะเลาะกันเมื่อหลายเดือนก่อนประยุทธ์จึงย้ายไปพักร้อนแต่เส้นใหญ่จึงได้กลับมาเป็นปลัด เหมีอน เดิม...ก็ได้แจกันดอกไม้จากพระองค์ ทูบีนัมเบอร์วัน จึงทำท่าว่าเป็นเด็กเจ้าถ่ายรูปโชว์ชาวบ้านใหญ่...บอกความจริงกับประชาชนดีกว่าว่า ต้องเอางบประมาณจากภาษีประชาชนไปจ่ายให้พระองค์โตเพื่อไปใช้ถลุงเล่นเต้นระบำกับแกรมมี่ในโครงการ "เสมอหูทูบีนัมเบอร์วัน" กี่ร้อยล้านในส่วนของกรมสุขภาพจิตและเศษเลยจากกรมต่างๆ...งานนี้เป็นคนละเรื่องกับเรื่องแจกันดอกไม้ข้างต้นแต่เป็นเรื่องหาเงินจากงบดูแลชาวบ้านเจ็บป่วยไปถวายถลุงใช้เป็นส่วนตัวแท้ๆ

*ข่าวสำนักพระราชวังประตูหลังข้างต้นเพียงเท่านี้ก็มีค่ากว่าสือสิ่งพิมพ์ทั้งหลายในประเทศไทยรวมกันทุกฉบับ...อ่านแล้วคุ้มพบกันใหม่อีกไม่นานอาการป่วยจะเดินตามที่สปท.แถลงมาทั้งหมด//



Inga kommentarer:

Skicka en kommentar