lördag 9 maj 2015

วิกฤติ CP ธุระกิจไม่ใช่มีแต่เซเว่น ยังมีอีกหลายเครือข่ายธุระกิจครอบคลุมประเทศ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ประมูลเข้าเป็นเจ้าของควบคุมธุระกิจทุกวงการ + การผูกขาดเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์สายพันธ์พืชพันธ์สัตว์ + ขยายอิทธิพลเข้าทำลายคู่แข่งขัน+.ทำกำไรมากมายมหาศาล.+ เป็นนายทุนท่อน้ำเลี้ยงสนับสนุนพวกม็อบทำลายระบอบประชาธิปไตย ฯลฯ .อ่านแล้วคิดไตร่ตรอง..มีจริยธรรมหรือไร้จริยธรรม.?.

มติชนออนไลน์

วิกฤต "แบรนด์" วิกฤต CP เมื่อ "เจ้าสัว" ติดกับดักโซเชียลมีเดีย


จากจุดเริ่มต้น "เค้กกล้วยหอม" เป็นตัวจุดชนวนยักษ์ใหญ่รังแกผู้ประกอบการรายเล็ก ๆ ขยายวงสู่เรื่องอื่น ๆ เป็นระลอก ทั้งการดึงสินค้าขายดีของคู่แข่งออกจากร้านและส่งสินค้าตัวเองเข้าแทนที่ ตามมาด้วย

กรณีการผลิตสินค้าเฮาส์แบรนด์ของเซเว่นฯเอง ที่ดูเผิน ๆ แทบแยกกับสินค้าที่ได้รับความนิยมไม่ออก รวมถึงดราม่าเรื่องร้านซักรีดที่โหมกระแสให้กระพือยิ่งขึ้น

แม้ว่า "ซีพี ออลล์" จะมีคำอธิบายทันท่วงทีและต่อเนื่อง แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่สามารถสร้างความเข้าใจและแคลงใจในสังคม โดยเฉพาะโลกออนไลน์ที่ข่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว หนำซ้ำการชี้แจงล่าสุดกลับยิ่งเติมเชื้อ เกิดเป็นการปลุกกระแสโซเชียลเน็ตเวิร์ก นำไปสู่การรณรงค์ไม่เข้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่นและซื้อสินค้าซีพี ตลอดช่วงวันที่ 7-11 พ.ค.ที่ผ่านมา

คลิกอ่านข่าทั้งหมด-วิกฤต "แบรนด์" วิกฤต CP เมื่อ "เจ้าสัว" ติดกับดักโซเชียลมีเดีย


....................................................
เรื่องเก่า มาเล่าใหม่
By เพจกู
ซีพีเอฟ (เจริญโภคภัณฑ์ฟู้ด) ปลอม ตราฮาราล วางขายสินค้า สุดท้าย ถูกจับได้ ยอมความ ยอมจ่ายฟาดหัว 20,000,000 บาท เพื่อปิดเรื่อง   
http://www.muslimthaipost.com/main/content.php…


รูปภาพของ กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ


[​IMG]

(อาหารสัตว์   ปุ๋ยเคมี  สารเคมี   ที่เป็นสารปนเปื้อนในอาหาร  นอกจากนี้ยังเป็นมลพิษที่ตกค้างในดินในแหล่งน้ำ  นับเป็นภัยอันตรายร้ายแรงที่ทำลายมวลมนุษย์ชาติเพื่อนร่วมโลกด้วยกันให้ตายผ่อนส่งอีกด้วย  เพื่อมุ่งผลกำไรอันมากมายมหาศาลของพวกนายทุนสามานย์  )

บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศไทย ยารา(นอรเวย์) ซินเจนทา(สวิตเซอร์แลนด์) และมอนซานโต้(สหรัฐ) คือยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของโลกในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ปุ๋ยเคมี สารเคมีกำจัดศัตรูพืช และเมล็ดพันธุ์ ตามลำดับ

เจริญโภคภัณฑ์แม้มีสัดส่วนครอบครองตลาดอาหารสัตว์ 3.4 เปอร์เซ็นต์ แต่ด้วยมูลค่าตลาดอาหารสัตว์ของโลกที่สูงถึง 11.2 ล้านล้านบาท ทำให้เจริญโภคภัณฑ์มียอดขายเฉพาะอาหารสัตว์สูงถึง 380,800 ล้านบาทต่อปี*

บริษัทยารา(Yara) ครอบครองตลาดปุ๋ยเคมี 12% ของตลาดปุ๋ยเคมีของโลก ซึ่งมีมูลค่า 2.9 ล้านล้านบาท บริษัทนี้มีรายได้จากตลาดปุ๋ยเคมี 348,000 ล้านบาทต่อปี

บริษัทซินเจนทา(Syngenta) ครอบครอบตลาดสารเคมีกำจัดศัตรูพืช 23.1% ของตลาดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชของโลกซึ่งมีมูลค่า 1.4 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นยอดขาย 323,400 ล้านบาทต่อปี

ส่วนมอนซานโต้ยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของโลกด้านเมล็ดพันธุ์ (ซึ่งมีมูลค่า 1.1 ล้านล้านบาท)และยักษ์ใหญ่อันดับ 5 ของโลกด้านสารเคมี ครอบครองตลาดเมล็ดพันธุ์ของโลกสูงถึง 26% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 286,000 ล้านบาทต่อปี

อุตสาหกรรมทั้ง 4 ประเภทนี้ (รวมทั้งอุตสาหกรรมผลิตพันธุ์สัตว์)ถือว่าเป็นฐานรากของระบบเกษตรกรรมและอาหาร ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับเกษตรกรที่มีจำนวนประมาณ 1,000 ล้านคน และผู้บริโภค 7,000 ล้านคน

เมื่อเปรียบเทียบซีพีกับบริษัทยักษ์ใหญ่การเกษตรอื่นๆ ยักษ์ใหญ่การเกษตรข้ามชาติซึ่งมีฐานบัญชาการอยู่ในประเทศไทยน่าเกรงขามไม่น้อย เนื่องจากมิได้จำกัดการดำเนินธุรกิจเฉพาะด้านปัจจัยการผลิตเท่านั้น แต่ได้ขยายออกไปครอบคลุมอุตสาหกรรมการผลิต การแปรรูป ค้าส่ง ค้าปลีก และอื่นๆอย่างครบวงจร ซึ่งหาบรรษัทข้ามชาติอื่นเปรียบเทียบได้ยาก

การเติบโตของซีพีมีต้นทุนทางสังคมและมีแง่มุมต่างๆให้ต้องติดตามมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการผูกขาดซึ่งกระทบทั้งต่อเกษตรกรรายย่อยและผู้บริโภค รวมทั้งอิทธิพลของซีพีเหนือระบบราชการและการเมืองในประเทศไทย

หมายเหตุ :
1) ซีพีเอฟแจ้งรายได้เมื่อปี 2552 อยู่ที่ 357,175 ล้านบาท โดยมีรายได้จากอาหารสัตว์ 56% รายได้ทั้งหมดมาจากตลาดในประเทศไทย 45% จีน 28% เวียดนาม 12% และอื่นๆ 15% ตัวเลขนี้ค่อนข้างต่ำกว่ารายงานที่อ้างอิงในแผนภาพนี้และรายงานอื่นๆในต่างประเทศ
2) ซีพีเอฟเป็นส่วนหนึ่งของ "เครือเจริญโภคภัณฑ์"

 

มติชนออนไลน์
"ชูวิทย์" ตอบให้ ทำไมคนไทยไม่ปลื้ม CP ?
ในโลกของธุรกิจสากล ซีพีไม่มีสัญชาติ



คนไทยรู้สึกอย่างไรกับ CP ?ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้ซีพีใหญ่แค่ไหน? ซีพีลงทุนไปทั่วโลกแม้ปากจะบอกอยู่เสมอว่าตัวเองเป็นบริษัทของคนไทย แต่ในโลกของธุรกิจสากล ซีพีไม่มีสัญชาติ
เราเรียกบริษัทเหล่านี้ว่า "บริษัทข้ามชาติ" ไปลงทุนที่ประเทศไหนก็จัดตั้งบริษัทตามสัญชาติของประเทศนั้น  เราได้ยินเรื่องราวการประสบความสำเร็จของซีพีมามากเริ่มต้นจากร้านขายอาหารสัตว์เล็กๆเมื่อ 50 ปีก่อน ตั้งอยู่แถบเยาวราช บนถนนทรงวาด หลังบ้านผมนี่เอง

แต่ซีพีควรจะฟังว่า คนไทยรู้สึกอย่างไรกับซีพี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทำไมคนไทยถึงไม่ประทับใจกับความสำเร็จของซีพี?


1.ซีพีใหญ่เกินไป และการเติบโตประสบความสำเร็จของซีพี คืนกำไรกลับสู่สังคมน้อยมาก

ไม่ต้องไปพูดถึงการบริจาคน้ำท่วม หรือเอาผ้าห่มไปให้กับผู้ประสบภัยหน้าหนาว เพราะเรื่องแค่นั้นมันจิ๊บจ๊อย เมื่อเทียบกับการที่ซีพีมีอำนาจเหนือตลาด โดยใช้เงินทุนกำหนดทิศทางตลาดจนกระทั่งคู่แข่งขันเหลือน้อยลง หรือหายสาปสูญไป
ยกตัวอย่าง เซเว่นอีเลฟเว่นที่มีสาขามากมาย คู่แข่งอย่างแฟมิลี่มาร์ท หรือลอว์สัน เทียบไม่ติดฝุ่น

2.วิธีการที่ซีพีปฏิบัติต่อลูกค้าหรือคู่ค้า เป็นเพียงเรื่องของธุรกิจเท่านั้น จึงยากที่จะทำให้คนไทยในฐานะลูกค้า คิดถึงซีพีในแง่ที่ดีอื่นๆ นอกเหนือจากเรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจ

ซีพีตะกละตะกลามที่จะประสบความสำเร็จโดยใช้วิธีควบคุมตลาดเปิดเซเว่นโปรยไปทั่วทุกชุมชน จนไม่เหลืออะไรให้กับคนท้องถิ่นที่อยากประกอบธุรกิจแบบเดียวกัน ค่าแฟรนไชส์ก็หนักหนาสาหัส แถมยังชักเปอร์เซ็นต์จากผู้ที่เปิดร้านเซเว่นมากกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์
3.ซีพีประสบความสำเร็จมากเกินไปอะไรที่ซีพีทำต้องเหนือกว่าผู้อื่นไปเสียทุกอย่าง ไม่ว่าขายไก่ อาหาร ค้าปลีกค้าส่ง โทรคมนาคม เคเบิ้ลทีวี และต่อไปอาจจะเป็น "รถไฟความเร็วสูง"


ซีพีแทรกซึมเข้าไปทุกธุรกิจ ทำกำไรมหาศาล และไม่เหลือพื้นที่ยืนให้กับคู่แข่งขันขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ หรือแม้กระทั่งคนในท้องถิ่น
คนไทยไม่ได้ต้องการบอยคอต หรือต่อต้านซีพีแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการบอกให้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างซีพีได้พิจารณาอย่างถ่องแท้ ว่าคนไทยคิดอย่างไรกับซีพี

ทำไมคนไทยถึงไม่ภาคภูมิใจกับความสำเร็จของซีพี? มันเป็นคำถามที่ยาก ที่ซีพีจะต้องค้นหาคำตอบให้เร็วที่สุดไม่อย่างนั้น ไม่ว่าซีพีจะประสบความสำเร็จมากมายเท่าไหร่ คนไทยก็ยิ่งเกลียดกลัวซีพีมากขึ้นเท่านั้น

            















Inga kommentarer:

Skicka en kommentar