torsdag 7 maj 2015

ผู้อยู่เบื้องหลังสนับสนุนกลุ่มทุนสามานย์ผูกขาดก็คือเหลือบศักดินาอำมาตย์เผด็จการทรราชราชาธิปไตยของไทยนั่นเอง... ประชาชนอย่าหลงทาง...

เผยแผนล้ม"ซีพี"หวังต่อรองประโยชน์ เพิ่มค่าตัว..แต่ยอมรับซีพี.ทำธุรกิจไร้คุณธรรม


THU, 05/07/2015 - 13:47 JOM


รูปภาพของ ตาสว่าง




คลิกดูเพิ่ม-http://thaivoicemedia.com



นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง และประกอบธุรกิจด้านการเกษตร ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ กับ Thaivoicemedia โดยไม่ขอเปิดเผยชื่อและหน้าตาของตัวเองเนื่องจากเกรงจะได้รับผลกระทบ กรณี การออกมารณรงค์ต่อต้านสินค้าในเครือบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี. ว่า ธุรกิจในเครือซีพี แม้จะไม่ใช่ธุรกิจที่ผูกขาดทั้งหมด แต่ซีพีทำธุรกิจโดยขาดจริยธรรม พยายามใช้อำนาจและอิทธิพลของตัวเองเพื่อให้อยู่เหนือการควบคุม และอยู่เหนือตลาด แม้ว่าจะมี กม.ควบคุมการแข่งขันทางการค้า ปี 2542 แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะเอากฎหมายนี้มาเล่นงาน ซีพี ได้เพราะ ซีพี ได้เข้าไปครอบงำอำนาจรัฐไว้เกือบทุกส่วน ทั้งระดับราชการ และการเมือง ระดับราชการ มีการจ่ายเงินให้กับข้าราชการระดับสูงในหลายกระทรวงเพื่อศึกษาดูงานในต่างประเทศ มีการจ้างนักวิชาการในสถาบันการศึกษาทำวิจัย เพื่อ สนับสนุน ปกป้อง รักษา สร้างความก้าวหน้้าให้กับธุรกิจของตัวเอง ระดับการเมือง มีการสนับสนุนกลุ่มการเมือง พรรคการเมือง และบางครั้งก็ส่งบุคคลในธุรกิจเข้าไปเป็นรัฐมนตรีก็มีมาแล้ว รวมกระทั่งในองค์กรระดับสูงอย่าง เช่น องคมนตรี ซีพีก็มีการจ่ายเงินให้ มีการมอบเงินให้อยู่ตลอดเวลา นี้คือการพยายามครอบงำอำนาจทุกระดับในสังคมไทย ส่วนเรื่องการทำธุรกิจที่ไร้คุณธรรม ซีพี. จะขยายธุรกิจในทุกสาขาทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่มีความสามารถในสาขานั้น ๆ แต่จะเข้าไป ให้การสนับสนุน ส่งเสริม จากนั้นก็จะกอปปี้เอาความรู้นั้นมาเพื่อพัฒนาต่อยอดเป็นธุรกิจของตัวเองในที่สุด ซึ่งวิธีการเช่นนี้นักธุรกิจที่มีคุณธรรม มีจริยธรรมเขาจะไม่ทำกัน เมื่อถามว่า การออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านสินค้าในเครือบริษัท ซีพี ครั้งนี้ จะทำให้ ต้องมีอันต้องเป็นไปเหมือนธุรกิจในตระกูล ชินวัตร หรือไม่ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง คนนี้บอกว่า คงยาก เพราะทุนชินวัตร มีศัตรูทางธุรกิจมากกว่า เพราะเข้ามาเล่นการเมือง แต่ธุรกิจ ทุนสามานย์ซีพี สร้างพันธมิตรในทุกระดับได้มากกว่า และ ไม่เอาตัวเองมาเล่นการเมือง จึงสามารถควบคุมกลไกอำนาจรัฐในโครงสร้างของประเทศไทยได้มากกว่า และคิดว่าการเคลื่อนไหวต่อต้านสินค้าซีพีครั้งนี้ไม่น่าจะมีผลต่อการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การทำธุรกิจของซีพีให้มีคุณธรรมมากขึ้น เมื่อถามว่า การต้านสินค้าในเครือซีพี ครั้งนี้ มีการเมืองเพื่อการต่อรองผลประโยชน์อยู่ด้วยหรือไม่ นักเศรษฐศาสตร์การเมืองรายนี้ ยืนยันว่า มีแน่นอน เพราะบุคคลที่กำลังเป็นหัวหอกในการออกมาต่อต้านโดยใช้สื่อที่ตัวเองถนัดนั้น ก็คงหวังที่สร้างอำนาจต่อรองอะไรบางอย่าง กับ คุณธนินทร์ เจียรวนนท์ เจ้าของซีพี และหวังสร้างค่าตัวเพื่ออำนาจต่อรอง นี่จะเป็นเป้าหมายหลัก ส่วนการสร้างกระแสให้สังคมตื่นตัวกับการที่จะเรียกร้องให้ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์หันมาทำธุรกิจที่เป็นธรรม เป็นมีจริยธรรมอย่างแท้จริงนั้น เป็นเรื่องของ เครือข่ายประชาชนที่จะต้องลุกขึ้นมาต่อสู้เรียกร้องกันเอง


เทพอัศวิน ศีลรักษารุ่งเรืองs foto.




Inga kommentarer:

Skicka en kommentar