måndag 18 maj 2015

บทเรียน..จากเผด็จการทหารในประเทศอิยิปต์วันนี้

ใครอยากเห็นอนาคตเมืองไทย เห็นจะต้องดูที่อียิปต์วันนี้


โดย  จักรภพ เพ็ญแข
17 พฤษภาคม 2558


เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๘ ศาลอียิปต์ได้พิพากษาประหารชีวิต โมฮัมหมัด มอร์ซี ผู้เคยเป็นถึงประธานาธิบดีของประเทศก่อนการรัฐประหาร ด้วยข้อกล่าวหาว่า เขายุยงและส่งเสริมการถล่มทำลายคุกที่ฝ่ายทหารและอำมาตย์ของอียิปต์จับคนบริสุทธิ์ใส่เอาไว้หลายสิบปีต่อเนื่องกัน อันเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติภาคประชาชนอียิปต์ที่ล้มระบอบเผด็จการอันแข็งแกร่งของ ฮอสนี่ย์ มูบารัค ลงได้ในกระแสที่เรียกกันว่า ฤดูใบไม้ผลิแห่งโลกอาหรับ หรือ อาหรับ...สปริง ก่อนหน้านี้คนนับร้อยได้ถูกลงทัณฑ์ถึงขั้นประหารชีวิตมาแล้ว โดยเฉพาะสมาชิกของขบวนการภราดรภาพมุสลิม แต่ โมฮัมหมัด มอร์ซี ได้กลายเป็นเหยื่อเผด็จการที่มีตำแหน่งสูงสุดเท่าที่มีมา
ถ้าเราแยกความเป็นพุทธและมุสลิมออกไปชั่วคราว ฐานะทางการเมืองของ อดีตประธานาธิบดีโมฮัมหมัด มอร์ซี ก็ไม่ผิดอะไรกับ นายกรัฐมนตรีผู้มาจากการเลือกตั้งของพระราชอาณาจักรไทยทั้ง ๒ ท่านคือ ดร. ทักษิณ ชินวัตร และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อำนาจที่ได้มา ได้มาจากผลการเลือกตั้งอันบริสุทธิ์ยุติธรรม ดำเนินการบริหารประเทศท่ามกลางความขัดแย้งที่ฝ่ายอำนาจเก่าก่อหวอตขึ้น จนเมื่อเห็นว่าประชาชนยังยืนหยัดสนับสนุนผู้ที่มาจากการเลือกตั้ง และตัวเองกำลังจะพ่ายแพ้อย่างถาวร ก็วิ่งไปตามอันธพาลรายเดิมที่ซ่อนตัวอยู่ในกองทัพแห่งชาติ ออกมายึดอำนาจการปกครองแผ่นดิน แล้วจึงเอาข้อกล่าวหาต่างๆ ออกมาเรียงรายกันราวสินค้าแบกะดิน และเดินหน้ากำจัดคู่แข่งทางการเมืองเสียด้วยวิธีการอันโสมมนั้น
เครื่องมือของเผด็จการอำนาจเก่าของอียิปต์คือ ทหาร ศาล อัยการ และข้าราชการในสายงานที่เกี่ยวข้อง
รายงานเรื่องมอร์ซีเพื่อจะบอกนิดเดียวว่า วันที่ตัดสินคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อาจจะเป็นวันตัดสินประเทศไทยพร้อมกันไปด้วย ไทยเริ่มต้นคล้ายอียิปต์ โดยเฉพาะบทบาทของฝ่ายเผด็จการ แต่ไม่น่าจะลงท้ายเหมือนกันในบทบาทของภาคประชาชน
๑๙ พฤษภาคม ฆ่าประชาชนมาแล้ว จะถือเอาฤกษ์เดียวกันนี้ฆ่าต่อไปอีกก็ลองดู
ประชาชนไทยยังมีเลือดมีเนื้อ ไม่ได้เหลือแต่ซากนี่ครับ



จักรภพ เพ็ญแขฝากถึงอดีตรองนายกรัฐมนตรี ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี


จักรภพ เพ็ญแข
17 พฤษภาคม 2558

อดีตรองนายกรัฐมนตรี ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี ระเบิดเปรี้ยงออกมาอย่างทนไม่ได้ว่า คณะอนุกรรมการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช. ทำเหมือนว่า เราจะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้อีกต่อไป จึงได้เดินหน้าเอาผิดกับ อดีตนายกรัฐมนตรี คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับรัฐมนตรีร่วมคณะอีก ๓๔ คน ในกรณีให้เงินเยียวยาผู้ได้รับความเดือดร้อนเสียหายทางการเมืองเช่นนี้
เราดีใจที่อดีตรองนายกรัฐมนตรีได้ตื่นขึ้นจากหลับ และเราหวังว่า ทั้งอดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีคนอื่นๆ จะตื่นพร้อมกันในคราวนี้...ด้วย ฝ่ายอำนาจเก่าเขาแสดงออกมา

นานนักหนาแล้ว เขาไม่ประสงค์จะร่วมโลกกับฝ่ายประชาชนอย่างเรา เพราะฝ่ายเราทำให้ประชาชนรู้สิทธิ์ของตัวเองและมีอำนาจในตัวเองกว่าสมัยก่อนที่เป็นเพียงฝุ่นเมือง เขาต้องการประชาชนในฐานะตัวประกอบอดทนของชาติ เขาจะชี้นิ้วสั่งอะไรก็คลานเข่าตาม เขาจะให้อำนาจมาชมเชยเล็กน้อย ประชาชนก็มีหน้าที่ปลาบปลื้มชื่นชมเขามากๆ พอเขาขัดใจขึ้นมา เข้ามาคว้าอำนาจคืนไป ก็มีหน้าที่ยอมรับตามนั้น ไม่อาจจะส่งเสียงเรียกร้องอะไรได้ทั้งนั้น ประชาชนเลือกผู้นำที่จะช่วยทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น เขาก็เอาผู้นำคนนั้นมาฆ่าเสียกลางเมือง ฆ่าชื่อเสียง ฆ่าเกียรติยศ และฆ่าโอกาสทุกโอกาสที่จะหวนกลับมาทำประโยชน์อีกได้
ถูกแล้ว ดร.ปลอดประสพที่รัก ทั้งสองฝ่ายคงอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ คำถามคือ แล้วจะนั่งเป็นเบื้อรออะไรกันอยู่อีกเล่า ออกมาช่วยกันทำฝันให้เป็นจริงกันข้างนอกนี่ไม่ดีกว่าหรือ?

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar