söndag 7 december 2014

"อำมาตย์เก่าไป - อำมาตย์ใหม่มา " ประเทศไทยก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง..." ความขัดแย้งระหว่าง ตระกูล ชินวัตร กับ ตระกูล มหิดล "....ถามประเทศไทยและประชาชนไทยได้อะไร??? ประเทศไทยและประชาชนไทยต้องตกอยู่ในยุคมืด " ถูกปิดหู ปิดตา ปิดปาก " ปร ะชาธิปไตยถูกฆ่าตัดตอน สังคมไทยตกอยู่ภายใต้กฎอัยการศึก ได้รัฐบาลเผด็จการทหารครองเมือง ตัดสินดคีด้วยศาลทหารใช้กฎหมายทหาร เศรษฐกิจประเทศพังพินาศ ประชาชนไทยส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ...แถมด้วยรัฐธรรมนูญเผด็จการที่เขียนขึ้นโดยพวกทาสขี้ข้ารับใช้อำมาตย์เผด็จการทรราช ...พี่น้องประชาชนไทยโปรดตื่นและตั้งสติยอมรับกับสถานการณ์ความเป็นจริงอย่าได้หลงทางตั้งความหวังลมๆแล้งกับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ อยากได้อะไรต้องต่อสู้เรียกร้องไขว่คว้าเอาด้วยตัวเอง ให้ถามตัวเองอยากเป็นทาสอยู่อย่างนี้ตลอดไป ?หรือ อยากปลดปล่อยตัวเองให้เป็นไท?.

เลือดย่อมข้นกว่านํ้า ...ความขัดแย้งระหว่าง ตระกูล ชินวัตร กับ ตระกูล มหิดล

เลือดย่อมข้นกว่านํ้า ...ความขัดแย้งระหว่าง ตระกูล ชินวัตร กับ ตระกูล มหิดล มีคนบางพวกยังมีความหวังลมๆแล้งๆว่าลูกชายจอมเผด็จการ ในตระกูลมหิดลจะให้ความช่วยเหลือคนในตระกูลชินวัตรเพื่อทำลายคนในครอบครัว ของตนเอง หรือยังไปฝากความหวังเอาว่า ผู้ที่จะสืบทอดระบอบเผด็จการคนต่อไปไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงจะให้ความช่วย เหลือประชาชนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและต่อต้านผลประโยชน์ของครอบครัวของตนเอง ก็ค่อนข้างจะบ้าไปแล้ว ลืมเสียเถิดถ้าคิดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย.

 




เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ..ภาพนี้บอกอะไรแก่ประชาชนไทย



โดย  แสงตะวัน


การเปลี่ยนผ่านขึ้นสู่ราช บัลลังก์ของรัชกาลที่๑๐   ระหว่างฟ้าชายและฟ้าหญิง ดูเหมือนจะลงเอยด้วยการตกลงกันได้ระหว่างพี่กับ น้อง    เพราะถึงอย่างไรก็เป็นสายเลือดในครอบครัวเดียวกัน   ถ้าไม่มีการวางแผนจากฝ่ายประธานองคมนตรีเปรมกับพวกทหารและอำมาตย์ ที่สนับสนุนเปรม   ที่คิดจtเชิดฟ้าหญิงขึ้นเป็นรัชกาลที่  ๑๐     ขึ้นแทนฟ้าชายซึ่งเป็นองค์มกุฎราชกุมาร    เพื่อเป็นเครื่องมือให้  เปรม  สุรยุทธ์ พร้อมสมุน  และ พรรคประชาธิปัตย์ จะได้ครองอำนาจเสวยสุขสืบต่อไป    แต่เหต6การณ์กลับเปลี่ยนแปลงไม่เป็นไปตามแผนที่่ฝ่ายเปรมคิดไว้   เพราะในช่วงหลังนี้เปรมไม่สามารถเข้าเฝ้าถวายงานกษัตริย์ภูมิพลได้    จนกระทั่งถึงวันที่กษัตริย์ภูมิพลได้ถูกเคลื่อนย้ายออกจากศิริราช ไปอยู่ที่หัวหิน  แสดงให้เห็นว่าเปรมเอง และสุรยุทธ์รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ถูกลอยแพจากฝ่ายกษัตริย์และพระบรมฯ    ทำให้เปรมและสุรยุทธ์   ไม่สามารถเอากษัตริย์และฟ้าหญิงมาอ้างเป็นเครื่องมือทำการใดๆ  เพื่อใช้แสวงหาอำนาจได้อีกต่อไป    ความหวังที่จะเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์    ซึ่งเป็นความใฝ่ฝัน ทะเยอทะยานอันสูงสุดในชีวิตของเฒ่าเปรมก็ยิ่งห่างใกลออกไปทุกที   ดังนั้นความพยายามครั้งสุดท้าย   ของเปรมและ สุรยุทธ์ พร้อมพรรคประชาธิปัตย์จึงทำทุกอย่างเพื่อทำลายรัฐบาลยิ่งลักษณ์ลงให้ได้    แล้วจะตั้งรัฐบาลของตนเองขึ้นมาเพื่อดำรงระบอบเผด็จการอำมาตย์โบราณสืบต่อ ไป   เพราะเป็นโอกาสเดียวที่เปรมกับพวกสมุนและพรรคประชาธิปัตย์จะมีโอกาสรอดได้    เปรมก็แก่ชราสมองเลอะเลือนจำคำพูดตัวเองไม่ได้แล้ว   ไม่รู้จะทนต่อความเสียดทานต่อไปได้อีกสักกี่นํ้า     คณะองคมนตรีที่ห้อมล้อมเปรมก็มีแต่คนแก่จะเข้าโลงอยู่แล้ว    การที่เปรมให้สมุน(ทหารแก่)ออกมาสร้างความวุ่นวาย    ก่อกวนเพื่อล้มรัฐบาลครั้งนี้    จึงเป็นการกระทำเพื่อการเอาตัวรอด ถ้าชนะก็อยู่ได้ต่อไป  ถ้าแพ้ก็ตายเท่านั้นเอง  ฉนั้นพี่น้องประชาชนอย่าออกมาเป็นเครื่องมือให้แก่เปรมและพรรคประชาธิปัตย์ ......
..........................................................................
การแสดงความเห็นของแกนนำอำมาตย์"ผู้ดีตีนแดงแห่งรัตนโกสินทร์"
เป็นเครื่องเซาะร่องนำทางล่วงหน้า... ส่งสัญญาณชัด -


























(ไปเจอมาน่าสนใจ ...ฝากให้อ่านความเห็นจากประชาชนไทยผู้ต้องการประชาธิปไตยและต้องการปลดปล่อยตัวเองออกจากการเป็นทาสของพวกอำมาตย์เก่าอำมาตย์ใหม่).
เลิกอ้างว่าเป็น "ยุทธวิธี" ได้แล้ว เพราะมัน "เลอะเทอะ" !!
"รู้ไหมหน้าบ้านใคร?" ที่อักษะ ผลมันออกมาเป็นยังไง?
โหนลูกชาย โดยอ้างว่าจะเสี้ยมให้ลูกสาวมันทะเลาะกัน
ที่จริงก็คือ "เหยียบเรือสองแคม" นิสัยนักการเมืองเลวๆ ชัดๆ

ไม่เอาแล้ว ไม่ว่าลูกชา...
ย หรือลูกสาว ใครขึ้นมันก็เหมือนกัน
ถ้าไม่มีปัญญา ถือธงนำประชาชน ด้วยการให้ความสำคัญ
กับประชาชนด้วยกัน ก็อย่าสู้ให้เปลืองตัวอีกเลย
.......................................


กำลังใจให้แก่กันและกัน
"ทางเดิน เดินทาง"
by Ngaesai


มีขึ้น มีลง คงคุกรุ่น
กงล้อหมุน ตามกาล ที่ผ่านผัน
เศร้าแต่จริง ที่เห็น เส้นทางนั้น
ราษฎร เต็มขั้น เท่านั้นตาย


กงล้อหมุน ต่อไป สู้ไม่หยุด
มีขมขื่น ลื่นสะดุด ก่อนจุดหมาย
ที่ผ่านมา ไม่รู้สึก นึกเสียดาย
แม้สุดท้าย เส้นทาง ยังซวนซบ -


Ngaesai
หนทางยัง อีกไกล กว่าได้เห็น
ยังยากเย็น อุปสรรรค และขวากหนาม
ดั่งนํ้าน้อย แพ้ไฟ โหมไหม้ลาม
สู้ในนาม สันติ ที่แพ้ปืน
 
หนทางยัง ขรุขระ แต่ละก้าว
เจ็บปวดร้าว ความหลัง ทั้งหลับตื่น
ณ.ที่นั่น หลังนาบ นอนราบพื้น
แม้ดึกดื่น ไม่กล้า ปิดตานอน


หนทางนั้น เราผ่าน การสูญเสีย
แม้ปลกเปลี้ย เก็บไว้ ในใจซ่อน
ฟุ้งคาวเลือด รินรด ทุกบทตอน
ยังหลอกหลอน ตามทาง ระหว่างเดิน


มากหลืบหลุม เล่ห์กล บนทางนั้น
มีโซ่ตรวน ลากพัน มานานเนิ่น
และหลายครั้ง ล้มลุก คลุกเผชิญ
ลื่นตกเนิน ซานซม เจ็บล้มตาย


และวันนี้ หนทาง ยังคับแคบ
เหมือนเจ็บแปลบ ถูกโบย เฆี่ยนโดยหวาย
ระหว่างทาง ถูกยํ่า ดักทำร้าย
ดาวหล่นหาย หลายดวง ร่วงรายทาง


และจุดหมาย ปลายทาง อยู่ข้างหน้า
ยังไขว่คว้า ยืนนิ่ง หรือทิ้งห่าง
รอบรอบตัว มืดดำ ซ้ำ(ตา)ฟ่าฟาง
รอสว่าง หรือหยุด จุดคบไฟ...(ส่องทาง)........


คืนเหน็บหนาว สั่นรัว กลัวนํ้าค้าง
เลี่ยงหลบนอน ข้างทาง รอสร่างไข้
หรือจะยัง กัดฟัน ดั้นด้นไป
ลุกขึ้นใหม่ เผิญหน้า ชะตากรรม..... -


by   ysostupid
บทละคร ชีวิต กูลิขิต
ใครอย่าคิด บงการ ให้สยบ
ถึงพ่ายแพ้ สงคราม เชิงการรบ 
มิอาจกลบ ความระอุ ในหัวใจ


ทุกหยาดเหงื่อ สายเลือด และน้ำตา  
ทุกเวลา คุกรุ่น รอรินไหล
สถานที่ ต่างๆ ที่ผ่านไป
ยังจำได้ พี่น้องกู ต้องล้มตาย -

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar