สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ขอแสดงความเคารพผู้ต้านรัฐประหารและขอบคุณผู้ช่วยเหลือ
ฤกษ์ 22.11 เฟซบุ๊ค 'สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล' เปิดใช้งานใหม่ เขียนแสดงความเคารพอย่างสูงผู้ต่อต้านการยึดอำนาจการปกครอง ขอบคุณผู้ช่วยเหลือ โดยจะจดจำน้ำใจไว้ตลอดไป และรู้สึกตื้นตันใจที่เห็นนักศึกษาต้านรัฐประหาร ถือว่าช่วยกู้เกียรติชุมชนมหาวิทยาลัยที่ถูกทำให้เสื่อมเสียโดยฝ่ายผู้บริหาร




สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล (แฟ้มภาพ)
22 พ.ย. 2557 - เมื่อเวลา 03.40 น. ตามเวลาประเทศไทย เฟซบุ๊คของสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักวิชาการประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งปิดการใช้งานไปตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. 2557 ได้เปิดการใช้งานขึ้นมาใหม่ และเปลี่ยนภาพปกเป็นข้อความตอนหนึ่งจาก โคลงสรรเสริญเกียรติกรุงเทพมหานครยุคไทยพัฒนา ของจิตร ภูมิศักดิ์ โดยยกท่อนที่เขียนว่า "ถึงยุคทมิฬมาร จะครองเมืองด้วยควันปืน..." และ "แต่คนย่อมเป็นคน" มาเป็นภาพปก




าพปกล่าสุดของเฟซบุ๊คสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล โดยเป็นการยกท่อนหนึ่งของโคลงสรรเสริญเกียรติกรุงเทพมหานครยุคไทยพัฒนา ของจิตร ภูมิศักดิ์
จากนั้นสมศักดิ์ ยังได้โพสต์สเตตัสเพิ่มเติมมีดังต่อไปนี้
000
[1] ด้วยความเคารพอย่างสูง
เสรีชนทุกท่าน ที่ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ในสภาพที่ยากลำบากอย่างยิ่ง ได้พยายามแสดงออกด้วยวิธีต่างๆว่า ไม่ยอมรับการใช้อำนาจปืน มาล้มรัฐธรรมนูญ ยึดอำนาจการปกครอง
ขออภัยอย่างสูง ที่ไม่สามารถมีส่วนร่วมในช่วงเวลาที่ผ่านมา


มศักดิ์ เจียมธีรสกุล
22 พฤศจิกายน 2557

[2] คำขอบคุณ
ช่วง 6 เดือนนับจากการรัฐประหาร - อันที่จริง 9 เดือนเศษ นับแต่วันที่มีคนบุกไปยิงถึงบ้าน - จนถึงวินาทีนี้ ผมไม่ได้พักอาศัยอยู่ในบ้านตัวเองเลยแม้แต่คืนเดียว ต้องย้ายที่พักหลายต่อหลายครั้่ง ซึ่งแน่นอนหมายถึงต้องเดินทางหลายครั้่งด้วย
ในการณ์นี้ มีคนจำนวนมาก (ถ้านับแล้วไม่ต่ำกว่า 50-60 คนขึ้นไป) ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ได้ช่วยเหลือ ตั้งแต่ให้ที่พำนักอาศัย ช่วยเหลือในการเดินทาง ดูแลเรื่องอาหารการกิน ความเป็นอยู่ และอื่นๆอีกหลายเรื่อง หลายคนทำไปอย่างเสี่ยงอันตรายต่อตัวเองอย่างมาก บางคนไม่เพียงแต่เสียแรงกาย และเวลา ยังเสียทรัพย์สินไปไม่น้อย
อันที่จริง ผมอยากจะระบุชื่อแต่ละคน ขอบคุณเป็นคนๆ แต่ถ้าทำเช่่นนั้น ก็มีแต่จะสร้างความเดือนร้อนหรือนำปัญหามาให้ทุกคนแน่นอน จึงต้องขออภัยที่จะต้องขอขอบคุณรวมๆมา ณ ที่นี้ ผมจะจดจำน้ำใจครั้งนี้ไว้ตลอดไป
ส่วนใหญ่ที่สุดของท่านที่ให้การช่วยเหลือผมเหล่านี้ ผมไม่รู้จักมาก่อนเลย หลายคน ถ้าจะว่าไปแล้ว ก็มิได้แชร์การเมืองแบบเดียวกับผมเสียทั้งหมดทีเดียว และมีบางคน เป็นผู้ที่ผมมีความเห็นแตกต่าง หรือวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักมาก่อน ผมแยกความรู้สึกขอบคุณในน้ำใจที่ให้กับผม กับสิ่งที่เป็นความแตกต่างของเราในอดีต และที่สำคัญ (และคงหลีกเลี่ยงไม่ได้) ในอนาคตได้ และเชื่อว่า ทุกท่านก็มีวุฒิภาวะมากพอที่เข้าใจเช่นนี้เช่นกัน
ขอได้รับความขอบคุณจากส่วนลึกของหัวใจผม


สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
22 พฤศจิกายน 2557

[3] โดยส่วนตัว ในฐานะคนมีอาชีพเป็นครู ผมก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื้นตันใจเป็นพิเศษ ที่เห็นนักศึกษาหลายคนออกมาแสดงบทบาทต่อต้านอำนาจอันธพาลของคณะรัฐประหาร แม้พวกเขาส่วนใหญ่จะไม่ใช่คนที่ผมสอนมาโดยตรงหรือรู้จักเป็นส่วนตัว แตผมรู้สึกภูมิใจในพวกเขามาก อย่างน้อยพวกเขาก็ช่วยกู้ "เกียรติ" ของชุมชนมหาวิทยาลัย ที่ถูกทำให้เสื่อมเสียไปจากการที่ผู้บริหารแทบทุกแห่ง ซึ่งเป็นผู้ใหญ่พอที่จะรู้อะไรผิดอะไรถูก กลับไปยอมสยบให้กับการกระทำผิดที่ร้ายแรงที่สุดในระบบกฎหมายและการปกครอง (สำหรับนักศึกษาบางคนที่ผมโชคดีได้สอนและแลกเปลี่ยน "วิชา" ต่างๆด้วยโดยตรง ผมยิ่งรู้สึกภูมิใจเป็นพิเศษ คิดถึงพวกคุณเสมอ)
.............................................................


หมายเหตุ - ฝากขอบคุณ "อ.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล " ดีใจมากที่ส่งข่าว   พร้อมนี้ขอส่งกำลังใจให้อาจารย์จงเข้มแข็งมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่แข็งแรง  อิสรภาพเสรีภาพคือสิ่งสำคัญที่สุดของพวกเราในการเดินทางเพื่อไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง  การก้าวออกมาสู่โลกกว้างทำให้ได้รู้ได้เห็นความเป็นศิวิไลซ์ของสังคมที่เจริญแล้ว  ซึ่งทุกสิ่งมันช่างแตกต่างกับสังคมไทยอันโบราณบัดซบที่หยุดนิ่งไม่ยอมเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา   นอกจากนี้การออกมาอยู่ข้างนอกยังมีโอกาสช่วยให้การเดินทางเร็วขึ้นโดยช่วยเป็นแสงสว่างชี้นำติดอาวุธทางปัญญาให้กับพี่น้องประชาชนเพื่อนร่วมชาติในประเทศไทยที่ถูกปล้นสิทธิเสรีภาพ ปิดหูปิดตาปิดปากอยู่ภายใต้ปลายกระบอกปืนทหารและกฎหมายทาส"ม.๑๑๒"ของอำมาตย์เผด็จการทรราชราชาธิปไตย  


ท้ายนี้ถ้าไม่เป็นการรบกวนอาจราย์มากเกินไปขอความกรุณาให้ส่งข่าวคราวมาบ้าง  ให้อาจารย์รักษาสุขภาพ...หวังว่าในยุคโลกไร้พรมแดน สักวันคงได้มีโอกาสพบกัน   ด้วยความห่วงใย จากใจเพื่อนร่วมเดินทาง......
...............................................................