söndag 16 november 2014

ไปเจอมา เรื่อง"โซ่ข้อกลาง” โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน " ข่าวเสี้ยม "? รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม สื่อยุคมืดนำเสนอสารพัดข่าว..ข่าวจริง .ข่าวเสี้ยม ข่าวลือ ข่าวปล่อย ข่าวลับลวงพลาง ฯลฯ สำหรับเรื่องการเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร ผลประโยชน์เท่านั้นอยู่เหนือสิ่งอื่นใด ไม่ใช่เพื่อ"ประเทศชาติและประชาชน"

-Pavin Chachavalpongpun

เกิดความขัดแย้งระหว่างประยุทธ์และสภาองคมนตรี ข่าวล่าสุด สภาองคมนตรีไม่พอใจในการทำงานของประยุทธ์และต้องการเปลี่ยนตัว
There is a conflict between Prayuth and the Privy Council. The latter is not happy with Prayuth's performance and wants to replace him with someone else.

.............................................................

ข่าวจากแนวหน้า  คอลัมน์การเมือง

วันจันทร์ ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 



ช่วงนี้บรรดาแกนนำ นปช.แดง ต่างมีจิตใจร้อนรุ่ม คลุ้มคลั่ง เหมือนถูกสาดด้วยน้ำร้อน เมื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวยืนยันว่า ทักษิณส่งสองสตรีชั้นสูง และหนี่งบุรุษ มาเจรจาให้พรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาล โดยจะยอมศิโรราบให้ทุกกระบวนท่า ไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น ขอแต่เพียงอย่าขัดขวางกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการออก พ.ร.บ. ปรองดองแห่งชาติ เท่านั้น
เป็นธรรมดาที่บรรดาแกนนำ นปช. แดง ต่างดาหน้ากันออกมาปฏิเสธข่าวเป็นพัลวัน เพราะการแถลงของนายสุเทพฯเท่ากับยืนยันว่า ทักษิณตัดสินใจถีบหัวเรือแดงเรียบร้อยแล้ว พร้อมที่จะจับมือกับประชาธิปัตย์เดินขึ้นภูไปด้วยกัน
แม้แต่นายกฯยิ่งลักษณ์  เมื่อถูกนักข่าวถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ก็ตอบปฏิเสธไม่เต็มปากเต็มคำนัก ยังคงเล่นบทเดิมๆคือ ตอบไม่ตรงคำถาม อธิบายถึงการทำหน้าที่ของแต่ละคนที่มีหน้าที่แตกต่างกัน ใช้คำพูดเก๋ๆแต่ฟังแล้วไม่รู้เรื่องว่าพูดเรื่องอะไร? เสร็จแล้วเธอก็รีบเร้นกายหนีนักข่าวไป
โดยสันดานแล้ว ทักษิณเป็นคนร้อยเล่ห์ เพทุบาย พูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอย โกหกเป็นประจำและทำอะไรๆได้ทุกอย่าง เพื่อประโยชน์ของตัวเอง การเดินหมากให้ 2 สตรีชั้นสูง และ 1 บุรุษ มาทาบทามนายสุเทพฯเพื่อหว่านล้อมให้พรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลนั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปได้  เพราะทักษิณไม่มีอุดมการณ์ทางการเมือง เป็นคนมักได้มุ่งแต่ประโยชน์ตนเป็นสำคัญ
ประเด็นที่น่าสนใจ และ เป็นคำถามของคนในสังคมก็คือ  ใครคือสองสตรี และ หนึ่งบุรุษ ที่ทักษิณใช้เป็นหมากในการเดินเกมส์การเมือง เกมส์นี้
จากการวิจารณ์ของสื่อต่างๆได้กล่าวถึงสตรีสองท่าน คือ ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล และ คุณหญิงปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี (หรือ คุณหญิงต้น) ส่วนหนึ่งบุรุษ น่าจะเป็นนายสุวัจน์ ลิมปตพัลลภ  ไม่ทราบว่านักข่าวของสื่อเหล่านั้น จะได้ข่าวมาจากแหล่งข่าววงในที่น่าเชื่อถือ หรือนั่งเทียนวิจารณ์ข่าว แต่จากสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมของคนทั้งสามที่ผ่านมา ทำให้สามัญชนเชื่อว่าน่าจะมีมูลความจริง
นายสุวัจน์ฯ เป็นนักการเมืองคนหนึ่งที่เคยร่วมหัวจมท้ายกับทักษิณ และเคยจับมือกับพรรคไทยรักไทยมาก่อน ขณะที่ น.ช. ทักษิณฯ หนีคุกหนีคดีไปต่างประเทศก็ไม่เคยทอดทิ้ง เมื่อออกจากบ้านเลขที่ 111 เป็นอิสระทางการเมือง ย่อมจะเนื้อตัวสั่นเป็นธรรมดา อยากที่จะร่วมเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม
ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล หญิงเฒ่าแต่แสร้งทำตัวมีจริตเหมือนสาววัยรุ่น เคยขึ้นเวทีเสื้อแดง สนิทชิดเชื้อกับทักษิณเป็นพิเศษ เคยเดินทางไปเยี่ยมเยียนทักษิณถึงดูไบ และได้รับเงินบริจาคจากทักษิณเข้ามูลนิธิต่างๆ ที่ตนเป็นผู้บริหารจัดการอยู่เสมอ จึงเป็นเรื่องปกติที่เธอจะมีใจให้ทักษิณ ช่วยให้ทักษิณได้พ้นผิด ได้เงิน 4.6 หมื่นล้านคืน เพื่อเธอจะได้อานิสงส์หาเงินเข้ามูลนิธิไว้ใช้เป็นกุศลผลบุญในชาติหน้าต่อไป
ส่วนคุณหญิงปิยาภัสร์ฯอดีตนักแสดงบทสมเด็จพระสุริโยทัย ภริยานายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ผู้ที่รัฐบาลเพื่อไทยแต่งตั้งให้เป็นกรรมการการบินไทย ขณะที่ลูกสาวเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์  คุณหญิงต้นนอกจากมีความสามารถทางการแสดงแล้ว ยังเป็นนักกายกรรมเหยียบเรือสองแคมที่เก่งกาจหาตัวจับยาก ส่งเสริมสามีให้ได้ดิบได้ดีด้วยการคบหาสมาคมกับ น.ช. ทักษิณ  ไม่รังเกียจเดียดฉันว่าเป็นโจรโกงบ้านกินเมืองเลย ขณะเดียวกันก็สนับสนุนลูกสาวเข้าสู่เวทีการเมืองในค่ายประชาธิปัตย์  จึงเป็นไปได้ที่เธอจะแสดงเป็นนางเอกเรื่อง“โซ่ข้อกลาง” ให้ทักษิณเจ้าของพรรคเพื่อไทย จับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อประโยชน์ทักษิณ และ ครอบครัวเธอ
นักธุรกิจการมืองอย่างทักษิณย่อมเล่นไพ่หลายหน้า การหาลู่ทางจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์เป็นเกมส์หนึ่ง ที่ทักษิณเล่นมานานแล้ว และทักษิณใช้หมากหลายตัวเดินเกมส์นี้ ไม่เฉพาะแต่นายสุวัจน์ฯ ท่านผู้หญิงวิระยาฯ และ คุณหญิงปิยาภัสร์ฯ เท่านั้น การเปิดเผยของนายสุเทพฯ เป็นอุทาหรณ์ให้คนเสื้อแดงรากหญ้าทั้งหลาย ได้รู้ซึ้งถึงความโกหก หลอกลวง และธาตุแท้ความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ของทักษิณเสียแต่บัดนี้ ก่อนที่จะ “ชอกช้ำระกำใจตาย” ตามๆกันในภายหลัง
เสาชิงช้า หน้าโบสถ์พราหมณ์
............................................................................


Inga kommentarer:

Skicka en kommentar