fredag 10 oktober 2014

ใช้ "ศีลห้า" คัดมาแต่คนดี ในการปฎิรูปประเทศ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนี่คือคำพูด...ระดับอาจารย์จุฬาฯ โลกแคบอัตตาสูงกู่ไม่กลับ ที่มองไม่เห็นสาเหตุและปัญหาที่แท้จริงที่เกิดขึ้นในสังคมไทย เป็นอาจารย์สอนรัฐศาสตร์ได้อย่างไร??? ไม่สงสัยเลยว่าทำไมประเทศไทยจึงเดินถอยหลังกลับสู่ยุคไดโนเสาร์โบราณ ...เศร้าใจจริงๆ...




สภาตลกแห่งชาติ สปช.ให้ใช้ศีลห้านำการปกครอง แล้วถ้าคนศาสนาอื่นล่ะ? น่าตลกระดับอาจารย์จุฬาฯ
อ.รัฐศาสตร์ จุฬาฯ เป็น สปช. เผยแนวทางปฏิรูปการเมือง ใช้ "ศีลห้า" คัดแต่คนดี ป้องกันคอรัปชั่น
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1412747247



Foto: สภาตลกแห่งชาติ สปช.ให้ใช้ศีลห้านำการปกครอง แล้วถ้าคนศาสนาอื่นล่ะ? น่าตลกระดับอาจารย์จุฬาฯ

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1412747247


นายอมร วาณิชวิวัฒน์ อาจารย์ภาควิชาสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็น สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ เดินทางมารายงานตัวแห่งชาติตั้งแต่ช่วงเช้า โดยเข้ารายงานตัวในวันแรกเป็นลำดับที่ 2 รองจากพันตรีอาณันย์ วัชโรทัย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย ที่มารายงานตัวเป็นคนแรก

โดยนายอมร เปิดเผยถึง แนวทางการปฏิรูปของตนว่า ตนมีแนวทางและความคิดเป็นตัวของตัวเอง โดยจุดยืนทางการเมืองของตนนั้น ไม่ใช่ กปปส.และไม่ใช่เสื้อแดงด้วย แต่จะนำเสนอแนวคิดที่หลากหลาย ยืนอยู่บนหลักการที่ถูกต้อง เชื่อว่าสภาปฏิรูปแห่งชาติจะมีการถกเถียงและรับฟังความคิด ความเห็นที่หลากหลาย ซึ่งข้อเสนอการปฏฺิรูปทางการเมืองที่เป็นรูปธรรมของตน เนื่องจากตนเพิ่งเรียนจบจาก วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หรือ วปอ.เมื่อเร็วๆนี้ และมีโอกาสได้นำเสนองานวิจัยต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จนได้รับการชื่นชม  คือการต่อต้านการคอรัปชั่นของนักการเมือง โดยเฉพาะการคัดกรองในขั้นของการเข้าสู่อำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารที่จะต้องคัดคนดี มีศีลธรรม จริยธรรม ดำเนินตามหลักธรรมพุทธศาสนา มีศีล 5  ต้องมีการตรวจสอบการจ่ายภาษีย้อนหลังอย่างละเอียด และจะต้องมีการทำประชาพิจารณ์ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ นายอมรยังเปิดเผยอีกว่า มีความยินดีที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาปฏฺิรูปแห่งชาติด้านการเมือง  โดยเป็นตำแหน่งที่รอมานานกว่า 8 ปี จากการร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 โดยแม้ สปช.ด้านการเมืองส่วนใหญ่จะเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์มาก  แต่ตนก็มั่นใจในความสามารถ และประสบการณ์ ที่ได้เข้ามาทำงาน โดยเฉพาะในสัดส่วนของนักวิชาการซึ่งก็มั่นใจว่าตนเองไม่ได้ด้อยกว่าใคร แม้จะมีอายุน้อยที่สุดใน สปช.ด้านดังกล่าว ก็ถือว่าตนเองเป็นความหวังของคนรุ่นใหม่ เเละจบการศึกษาด้านรัฐศาสตร์ มีประสบการณ์การสอนและศึกษากฏหมายรัฐธรรมนูญ กฏหมายปกครอง มาโดยตลอด

            

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar