söndag 5 oktober 2014

กวีประชาไท: ถึงเพื่อน…หกตุลา....













ไอฝนต้นตุลายังไม่ผ่านพ้น
เรื่องราวของผู้คนอันวีรกล้าหาญ
หกตุลาย้อนกลับไปในวันวาน
เสียงเพรียกร้องเรียกหาความยุติธรรม ยังดำเนินไป.

หมื่นกระสุนทะลุรั้วธรรมศาสตร์
บางศพถูกเก้าอี้ฟาดใต้ต้นมะขาม
หลายศพถูกเผาไฟในกองยางกลางถนน
จนลืมไปว่าเมืองไทยเป็นเมืองพุทธ.

สามสิบแปดปีพ้นผ่าน..
สามสิบแปดฝน สามสิบแปดหนาว นานนัก
ความยุติธรรมยังไม่ประจักษ์
ฆาตกรยังปรากฏชัดในมโนสำนึก.

พิราบขาวถูกยิงตกจากฟ้า!
ห่ากระสุนจากความรัก ถาโถม
เลือดกระเซ็นไปทุกย่อมหญ้ากลางสนามหน้าโดม.

แม่โดมตั้งตระหง่านทรงดินสอ
ได้จารึกเรื่องของพวกเขาเหล่านั้น ..

หกตุลาสองห้าหนึ่งเก้า ถึง หกตุลาสองห้าห้าเจ็ด
ยังเหมือนเดิม !

ถึงเพื่อนเดือนตุลา..
สายลมหนาวเริ่มแผ่วพัดมาอีกครั้งแล้ว
ด้วยรัก ด้วยศรัทธา ถึง ฟ้าอีกฟาก.


กวีประชาไท: ลูกชายแห่งต้นมะขาม (38 ปี 6 ตุลา)

 
ต้นมะขามเดือนตุลาไม่ว้าเหว่
เมื่อเรื่องเล่าเริ่มถ่ายเทสู่บทใหม่
จากบทเก่าที่เขาลืมอย่างจงใจ
คงศพเดิมไม่แกว่งไกวอย่างเดียวดาย

ลูกของพ่อถูกลบศพถูกเกลื่อน
วันเวลาพาเลือนลบความหมาย
ชัดเพียงแค่ห้วงคำนึงถึงลูกชาย
น้ำตาพ่อเปียกรูปถ่ายไม่เว้นวัน

ร่างของลูกใต้ต้นมะขามเก่า
ใบหน้าลูกยังโศกเศร้าในความฝัน
สามสิบแปดปีแต่เหมือนชั่วนิรันดร์
หัวใจพ่อเหมือนถูกหั่นไม่เปลี่ยนแปลง

มาวันนี้ฉากละครยังซ้ำซาก
แต่ละศพยังถูกลากถูกสาปแช่ง
ย้อมหญ้าสนามหลวงด้วยเลือดแดง
เก้าอี้ฟาดเอาขวดแทงตรงหัวใจ

ศพลูกๆเดือนตุลาคงไม่เหงา
มีศพเพื่อนร่วมเศร้ามาเพิ่มใหม่
ตัวละครหมุนเวียนเปลี่ยนหน้าไป
แต่ฉากฆ่าควักหัวใจยังสมจริง

เมื่อความเกลียดอ้างรักมาเหยียบย่ำ
ความงมงายไล่กระทำดั่งผีสิง
หัวใจพ่อก็ยับเยินเกินอ้างอิง
เสียงร้องไห้ก็เหมือนยิ่งไร้คนฟัง

กิ่งมะขามที่แขวนศพเดือนตุลา
ห้อยประจานความคลั่งบ้าแต่หนหลัง
คอที่พาดผ่านเชือกแห่งความชัง
เรียงรายบนสองฝั่งกาลเวลา

จากลานโพธิ์มาสู่ราชประสงค์
ประวัติศาสตร์ยังคงไม่เดินหน้า
ที่ไหลท่วมแผ่นดินคือน้ำตา
และสายเลือดที่หลั่งมาเซ่นความดี

จากศพลูกเดือนตุลาถึงศพไพร่
ถมศพเก่าเอาศพใหม่มาแทนที่
ต้นมะขามที่ซับเลือดมานานปี
ยังเหยียดกิ่งขึ้นชูชี้ฆาตกร

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar