lördag 9 augusti 2014

๙ ส.ค ๕๗ วันที่สิบเจ็ด ฟ้องด้วยภาพหนึ่งใน "เหยื่อ" ของความยากจน...ที่ยังมีอีกมากมายหลายล้านคนตกสำรวจในสังคมหลอกลวงของพวกคนดีอำมาตย์ศักดินาเทวดาจอมปลอมแห่ง "ตอแหลแลนด์" ภาพนี้มันช่างสวนทางกับ นโยบาย.คืนความสุขให้ประชาชนของ "คสช." เสียจริงๆ .....



[​IMG]

[​IMG]


                                       
อีกหนึ่งตัวอย่างคุณภาพชีวิตของคนยากจน
สองแม่ลูกยากจน ลูกชายพิการ วอนขอความช่วยเหลือ


เมื่อ 9 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากชาวบ้านในตำบลหนองกลางดงว่ามี 2 แม่ลูกที่พิการที่บ้านเลขที่ 67/ 4 หมู่ 9 ต.หนองกลางดง อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานีจึงเดินทางไปตรวจสอบพบที่เพิงข้างบ้านมีนายต้องศักดิ์  ปิ่นโต อายุ 50 ปี นอนอยู่ โดยนายต้องศักดิ์ ประสบอุบัติเหตุด้านรถจักรยานยนต์ เมื่อปีพ.ศ.2548 จนกระดูกสันหลังแตก พิการเป็นอัมพฤกษ์ซีกซ้าย และมีโรคแทรกซ้อนหลายอย่างจนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ มีนางชะอื้น จำนงค์ อายุ 71 ปี แม่คอยดูแลมาตลอดในระยะ 9 ปี โดยหุงข้าว ป้อนข้าว อาบน้ำ พาเข้านอน ดูแลเวลาปัสสาวะ อุจาระ 

..............................................................................................




อะไรคือที่มาของปัญหาสาเหตุความยากจนที่แท้จริง???  
ระบอบการปกครอง???ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบอะไร???
สังคมชนชั้นความไม่เท่าเทียมกันความด้อยโอกาสของคนในสังคม???


โดย  ราษฎรไทย. 


รัฐบาลทุกยุคทุกสมัยและคนในสังคมไทยมองข้ามปัญหานี้ไปได้อย่างไร ? ทำไมความยากจนจึงเป็นปัญหาเรื้อรังไม่ลดลงหรือหมดไปจากสังคมไทยเสียทีทั้งๆที่มีราชวงศ์กษัตริย์ที่ร่ำรวยมหาศาล  มีเศรษฐีนายทุนคนกลุ่มน้อยในสังคมร่ำรวยติดอันดับมหาเศรษฐีโลกมากมาย?.แล้วทำไมคนจึงมีคนในสังคมยากจนมากมาย  ช่วยกันขุดคุ้ยนำความจริง ออกมาชี้นำบอกให้คนสังคมได้รับรู้ด้วย.


ดัชนีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่  การศึกษา  สภาพเศรษฐกิจ  ความสงบสุขของคนในสังคม   คือตัวชี้บ่งบอกให้รู้ว่าเป็นประเทศพัฒนาแล้วหรือด้อยพัฒนา   เป็นประเทศประชาธิปไตยหรือประเทศเผด็จการ  


ดังนั้นความยากจนของคนในสังคมไทยจึงไม่ใช่ปัญหาเล็กๆที่ควรมองข้าม  ความยากจนนับเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมทางชนชั้นที่ทุกคนต้องช่วยกันหาทางแก้ไข  ไม่ใช่แก้ปัญหาด้วยการแจกถุงยังชีพเท่านั้น  ....




ปัญหานี้ฝากให้ท่านประธาน คสช.โดยเฉพาะช่วยจัดการแก้ไขปัญหานี้ให้ด้วย....
และฝากถึงผู้มีอันจะกินในสังคมไทยทั้งหลาย  โปรดเปิดใจและมองโลกให้กว้างขึ้นอย่าอยู่แต่ในโลกแคบๆเหมือนถูกกะลาครอบคิดและมองแต่เรื่องผลประโยชน์ของตัวเอง   ถ้าคนในสังคมมีปัญหามีความวุ่นวายเดือดร้อน  คนในสังคมไม่ว่าคนจนคนรวยทุกคนในสังคมย่อมได้รับผลกระทบกระเทือนเดือดร้อนไปถ้วนหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้...
..................................................................
เธอคือเหยื่อ...อีกรายของสังคมมีปัญหาที่แตกสลายเกินจะเยียวยา....


เผยวินาทีเฉียดตาย ไฮโซหมื่นล้านถูกโจรมอเตอร์ไซค์รุมตบ กระทืบ เอามีดฟัน ชิงทรัพย์ใจกลางกรุง วอนสน.ทุ่งมหาเมฆ ตามล่าวายร้าย พร้อมปูพรมแหล่งเสี่ยงดึกๆ เปลี่ยวสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนสัญจรดึก.. 
เรียกได้ว่าหวิดสิ้นชื่อแล้ว กรณีไฮโซหมื่นล้าน เพ็ญ สุขสมบูรณ์วงศ์ เจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์แห่ง Songland ชื่อดังถูกโจร 2 คนวิ่งราวกระเป๋ากลางเมืองออกมาเล่าวินาทีเฉียดตายกับไทยรัฐออนไลน์ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันอังคารที่ผ่านมา (29 ก.ค.57) นั้นตนออกไปทานข้าวกับเพื่อนๆ ที่โรงแรมสุโขทัย เรสซิเดนซ์ สาธร แต่งตัวธรรมดามากๆ
เพ็ญ สุขสมบูรณ์วงศ์   ไฮโซหมื่นล้าน เจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์
"พอเจอกันก็นั่งกินนั่งเม้าท์กันเป็นปกติ จนกระทั่งเที่ยงคืนครึ่งก็แยกย้ายเดินกลับข้ามถนนเลยร้านอาหารไทย 'บ้านขนิษฐา' แถวสาทร ตรงปลายตีนสะพานลอยจะชอบมีแท็กซี่จอดยาว คืนนี้มีอยู่ 2 คัน แล้วก็มีมอเตอร์ไซค์จอดอยู่อีก 2 คันด้านหลังแท็กซี่ พอมอเตอร์ไซค์คันแรกเห็นเราเดินเลยช่วงปลายตีนสะพานลอยเขาก็วนอ้อมแท็กซี่ขับขึ้นมาบนฟุตปาท ตอนนั้นเราก็ไม่ได้เอะใจ เพราะแถวนี้มอเตอร์ไซค์วิ่งขึ้นฟุตปาทกันประจำ ด้านซ้ายเราเป็นกำแพงปรากฏว่าเขาวิ่งเข้ามาตบเข้าที่หน้าอย่างแรงกระเป๋า (ยี่ห้อ Kipling) ก็ตกลงไป มอเตอร์ไซค์คันที่ 2 ที่ขับตามกันมา คนซ้อนท้ายก็ลงมาก้มหยิบกระเป๋ามีการยื้อกระเป๋ากัน เราก็ร้องบอกไปว่าอย่าเอาไปๆ ข้างในมีแค่ 'เอกสารงาน' กับ 'รูปลูก' เขาก็ไม่หยุด ถีบๆ แต่เรายังไม่ยอมปล่อยมันก็ลากไปตามฟุตปาทไกลมาก"

รอยช้ำจากการโดนทำร้าย
เพ็ญย้ำว่า ที่สุดแล้วโจรมอเตอร์ไซค์ก็ควักเอา 'มีดสปาต้า' มาฟัน บังเอิญโดนแค่นิ้วมือเย็บไป 3 เข็ม แต่เราก็ไม่ปล่อยลากกันจนไปถึงที่คนเร่ิมเยอะ จนที่สุดเขาก็ปล่อยกระเป๋าคืนพร้อมกับทิ้งมีดที่ฟันตกอยู่ตรงนั้น แล้วก็ขับรถหนีไป ขณะถูกยื้อยุดกระเป๋าและถูกทำร้ายตรงนั้นนานเป็นสิบนาทีแต่ก็ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือกันเลย
มีดที่คนร้ายทิ้งไว้
"ไม่มีค่ะ ไม่มีคนมาช่วยแท็กซี่ที่อยู่ตรงนั้นก็ไม่ช่วย จนเราต้องหอบร่างสะบักสะบอมขึ้นแท็กซี่ไปหาหมอเอง ถามเขาว่าทำไมไม่ช่วยเขาบอกว่านึกว่าผัวเมียทะเลาะกัน สิ่งที่ตอนนี้ก็เป็นกังวลใจคือ 1.ตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ ควรเข้ามาดูเรื่องนี้อย่างจริงจัง 2.เรามองว่าแท็กซี่กับมอเตอร์ไซค์อาจจะเป็นพวกเดียวกันรึเปล่า 3.ตรงที่เกิดเหตุ กทม. ควรจะเพิ่มไฟให้แสงสว่างหน่อยไหม เพราะมันมืดมาก ที่สำคัญนี่มันใจกลางเมืองแท้ๆ ยังเกิดเหตุได้โชคดีที่เราไม่ตาย เสียแค่หูฟังบลูทูธที่มันแตกไป" 

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะทำอย่างไรต่อไป นักธุรกิจหมื่นล้านบอกว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใส่ใจไม่ปล่อยทุกอย่างให้เงียบหาย แต่คดีแบบนี้มันน่ากลัว และเกิดขึ้นบ่อยมากแถมยังเกิดใจกลางเมืองกรุงอีกด้วย
"เราเข้าใจว่าตำรวจมีคดีเยอะ แต่เรื่องนี้ไม่อยากให้เงียบ เพราะที่ที่เราเจอมันใจกลางเมือง มีคนสัญจรไปมาประจำ บางคนทำงานดึกๆ ดื่นๆ ขึ้นบีทีเอส เกิดโดนฟันถ้าเขาตายไปใครจะรับผิดชอบ จึงอยากเรียกร้องให้ตำรวจประสานกับ กทม.สำรวจจุดไหนเสี่ยงต่างๆ และป้องกันพื้นที่สุ่มเสี่ยง พื้นที่ไหนเสี่ยงเยอะตำรวจก็วิ่งบ่อยหน่อย เชื่อว่าพวกนี้ก็กลัว เพราะกรณีเราเขาอุกอาจมาก ไม่อะไรปิดบังหน้าเลย ที่สำคัญที่เกิดเหตุก็ใส่กับสถานทูตสิงคโปรอยู่แถวนี้ด้วย กลับไม่มีความปลอดภัย"สุดท้าย เพ็ญย้ำว่า ตอนนี้ได้มอบอำนาจให้ทนายแจ้งความไปแล้ว ตำรวจก็มาสอบปากคำเบื้องต้นที่บ้าน โดยตนเองกำลังให้ผู้ใหญ่ประสานกับผู้กำกับ สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อนัดพบเพื่อกระตุ้นตำรวจให้จับคนร้ายและหาทางป้องกันเผื่อคนอื่นจะได้ไม่เป็นเหยื่อเหมือนกับเรา คาดว่าพรุ่งนี้ (6ส.ค.) เวลา 16.00 น. จะเข้าไปให้ปากคำเพ่ิมที่สน.ทุ่งมหาเมฆ.



Inga kommentarer:

Skicka en kommentar