torsdag 7 augusti 2014

ประกาศบ้านใคร?? บ้านใหญ่ในป่าลึก .พบที่จังหวัดเลย กลางป่าสงวนแห่งชาติ..คงไม่ใช่บ้าน"แพะ"บนป่าบนดอยหรือชาวบ้านทั่วไปแน่นอน..สร้างมานาน7-8 ปี แต่พึ่งค้นพบได้อย่างไร??.ป่าสงวนแห่งชาติที่ถูกบุกรุกเพื่อปลูกยางพาราอีก 528 ไร่?? ก่อนค้นพบเจ้าหน้าที่บ้านเมืองทำไมเหงียบจัง ?? .โปรดติดตามเรื่องราว "ความจริง" เรื่องนี้สนุกแน่... จะได้รู้เสียทีว่าใคร?ไอ้อีคนไหนเป็น.ผู้ทำลายธรรมชาติ บุกรุกป่าไม้ทำลายชาติตัวจริงเสียที กฎหมายจะเอาผิดได้ไหม? ต้องติดตามดู กลัวจะเป็นเล่นปาหี่จัดฉากกลบเกลื่อนเพื่อลดแรงเสียดทานในการตั้งรัฐบาลทหารเสียมากกว่า....






















ที่มา เฟสบุ๊ค ตรงจากสนามข่าว

สนธิกำลังหลายฝ่ายจังหวัดเลย ยึดบ้านไม้หรูในเขตป่าสงวน โยงนักการเมืองใหญ่่ภาคใต้

ผู้การบังคับการจังหวัดทหารบกเลย พร้อมด้วยด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นำกำลังทหาร ตำรวจ อส. เจ้าหน้าที่ป่าไม้ กว่า 100 นาย เข้าตรวจยึดบ้านทรงไทยหลังใหญ่มูลค่าไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท กลางป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมยึดสวนยางพาราบุกรุกป่าอีกกว่า 500 ไร่ สาวตัวการใหญ่เป็นนายหัว คนสนิทนักการเมืองใหญ่ใน จ.สุราษฎร์ธานี เคยเป็นแกนนำกลุ่มการเมืองเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลชุดที่แล้ว

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า วันนี้ 7 สิงหาคม 2557 พล.ต.วรทัต สุพัฒนานนท์ ผบ.จทบ.เลย ในฐานะผู้บังคับกองกำลังรักษาความสงบประจำพื้นที่จังหวัดเลย พร้อมด้วย นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย และพ.อ.สมหมาย บุษบา คณะทำงานด้านกฎหมาย กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 นำกำลังทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กองกำลังศรีสองรัก เข้าตรวจยึดบ้านไม้ทรงไทย ซึ่งกำลังก่อสร้างได้ประมาณร้อยละ 70 อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงปากชม บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยชมแล้ง หมู่ 10 บ้านโนนภูทอง ต.ธาตุ อ.เชียงคาน จ.เลย คาดว่าก่อสร้างมาแล้ว 7-8 ปี

บริเวณบ้านหลังดังกล่าว คณะเจ้าหน้าที่ต้องเดินทางจากถนนสายบ้านธาตุ-ปากชม เลี้ยวซ้ายไปบนเป็นเส้นทางลูกรัง ระยะทางประมาณ 5-6 กิโลเมตร จากการตรวจสอบพบว่า บ้านหลังนี้ก่อสร้างด้วยไม้เนื้อแข็ง ใช้วัสดุชั้นดี และเป็นที่น่าสังเกตว่า บริเวณหน้าบ้านมีอ่างเก็บน้ำ สร้างโดยกรมพัฒนาที่ดิน แล้วเสร็จเมื่อปี 2555 ซึ่งเป็นเวลาหลังจากการเริ่มก่อสร้างบ้านหลังนี้

การเข้าตรวจยึดครั้งนี้ เจ้าหน้าที่พบเพียงผู้รับจ้างกรีดยางอยู่ในบ้านพักคนงานประมาณ 20 คน และพบนายวัฒนา ศรีแสง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148 หมู่ 1 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รับเป็นผู้ดูแลบ้านและสวนยางพารา ซึ่งนายวัฒนาให้การว่า เพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้เพียง 1 ปี ไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของบ้านที่แท้จริง

นายไพโรจน์ ตันมิ่ง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ลย.13 (จอมศรี) เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่พบว่า บ้านหลังดังกล่าว มีนายชลิต บุญสา ชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นผู้แจ้งขึ้นบ้านเลขที่อำพรางไว้บ้านสงเปือย ต.ธาตุ อ.เชียงคาน จ.เลย ซึ่งเคยถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดไปแล้วเมื่อปี 2555 โดยมีชื่อของนายสมพร วรรคจันทร์ แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน คดีอยู่ในชั้นการพิจารณาของอัยการสูงสุด โดยก่อนหน้านั้น อัยการจังหวัดเลยสั่งไม่ฟ้อง แต่นายเริงชัย ไชยวัฒน์ ปลัดจังหวัดเลยในขณะนั้นเห็นแย้ง จึงส่งคดีไปให้อัยการสูงสุดพิจารณาตามขั้นตอน

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจยึดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่ถูกบุกรุกเพื่อปลูกยางพาราอีก 528 ไร่ จึงได้ควบคุมตัวคนงานรับจ้างกรีดยางและผู้ดูแลบ้าน ส่งไปดำเนินคดีและสอบสวนหาผู้ว่าจ้างที่แท้จริงต่อไป ซึ่งจากการสืบสวนในเชิงลึก เจ้าหน้าที่พบว่า เจ้าของบ้านเป็นคนสนิท เครือข่ายของนักการเมืองใหญ่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเคยเป็นแกนนำกลุ่มการเมืองเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลชุดที่แล้ว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1407395158

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar