๒๓ ก.ค. ๕๗ วันที่หนึ่ง เริ่มใช้ "รัฐธรรมนูญชั่วคราว" ที่อำมาตย์เผด็จการทรราช เขียนเพิ่มอำนาจทำงานให้ตัวเองและอภัยโทษให้ตัวเอง มันคือรัฐธรรมนูญเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จ แล้วหยิบยื่นให้ คสช. นำมาใช้ปกครองกดหัวประชาชนไทยทั้งประเทศ ว่าจะสร้างความปรองดองให้มีประชาธิปไตย. ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าประชาธิปไตยคืออะไร.แค่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวก็เป็นเผด็จการแล้ว. ความปรองดองและประชาธิปไตยมันจะเกิดได้อย่างไร "เผด็จการก็คือเผด็จการ " อำมาตย์ทรราชใช้หลักอะไรคิด? ช่างดูถูกเหยียดหยามประชาชนไทยทั้งประเทศอย่างไม่น่าให้อภัย...ย้อนยุคอยู่แต่กับอดีต ป่าเถื่อนล้าหลังเสียจริงๆ นี่มัน พ.ศ.๒๕๕๗ นี่ก็หกสิบแปดปีมาแล้ว อำมาตย์ทรราชปล่อยให้ประเทศไทยได้หลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์ของเผด็จการ ได้พัฒนาเคลื่อนไหวไปตามยุคสมัยเหมือนนาๆอารยะประเทศทั่วโลก เพราะคนไทยเป็นอารยะชนไม่ใช่คนป่ายุคหิน อำมาตย์ควรยอมรับความจริงได้แล้ว..การคลอด."รัฐธรรมนูญเผด็จชั่วคราว" ออกมาใช้ครั้งนี้ เป็นการทำลายสถาบันอำมาตย์ให้ล่มสลายเร็วขึ้นนั่นเอง.....

คนเดิมหน้าเดิม.....ไม่เคยเปลี่ยนแปลง







ภาพในอดีต.เมื่อปี๒๕๐๖..ที่รพ.ทหารพระมงกุฎ ....ฝากให้ประยุทธ์ดูเป็นตัวอย่างแล้วศึกษาถอดถอนบทเรียน  อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกนะ  กับคำว่า"เสร็จนาฆ่าโคถึกเสร็จศึกฆ่าขุนพล"..ชายคนนี้จากเด็กหนุ่มที่แข็งแรงจนถึงวัยแก่ชราจิตใจก็ยังเห็นแก่ตัวเองรักแต่ตัวเองเหมือนเดิมไม่มีวันเปลี่ยนแปลง...
ภาพปัจจุบัน...โปรดรอดู.อีกสักครู่  คงไม่นานคงได้เห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้น..ในโลกใบนี้ยังไม่เคยมีใครหมุนเวลากลับสู่ยุคอดีตได้...แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ   พลเอกประยุทธ์และคณะร่วมงานเองนะว่าจะฝืนความจริงไปได้นานแค่ไหน...สำหรับประชาชนไทยคงไม่ร่วมด้วยช่วยกันกับอำมาตย์อย่างแน่นอน   เพราะมีภาระหน้าที่ต้องทำคือเดินหน้าต่อสู้เรียกร้อง  เพื่อปลดปล่อยตัวเองให้หลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์ของระบอบเผด็จการทรราชราชาธิปไตยนี้ให้ได้....เพื่อก้าวสู่.อิสระภาพ  เสรีภาพที่ยั่งยืน  ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงเท่านั้น...