söndag 28 april 2013

....ออกมาช่วยกันจัดระเบียบนำความถูกต้องยุติธรรมกลับคืนสู่สังคมไทย....

โดย  โลกสีแดง

แนวร่วมปราบขบถตลก.รธน.เริ่มลุยแล้ว
พท.เล็งทำ จม.เปิดผนึกยื่นศาล รธน.ย้ำก้าวล่วงรัฐสภา หากตุลาการนิ่งลุยถอดถอนแน่

วันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 15:19:11 น.


เมื่อวันที่ 27 เมษายน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพท. แถลงว่า ในวันที่ 28 เมษายน พท.จะมีการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ "เพื่อไทยเพื่ออนาคตประเทศไทย" ที่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมปราศรัยด้วย


นายอนุสรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีสมาชิกรัฐสภาจัดทำจดหมายเปิดผนึกเพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญไ​ม่ยอมรับอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่รับคำร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ว่า ขณะนี้จดหมายดังกล่าวได้ดำเนินการผ่านฝ่ายกฎหมายของ พท.เสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแต่การตรวจสอบในขั้นตอนสุดท้าย โดยจะใช้เวลาในการประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทยวันที่ 30 เมษายนนี้ นำจดหมายเปิดผนึกมาหารือในที่ประชุมพรรค และในวันที่ 1 พฤษภาคมหรือวันที่ 2 พฤษภาคมจะยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ โดยเนื้อหาสาระจะเป็นการยืนยันทางกฎหมายและวิชาการว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจที​่ฝ่ายนิติบัญญัติสามารถดำเนินการได้ รวมทั้งอธิบายความจำเป็นในการแบ่งอำนาจออกเป็น 3 ฝ่าย คือฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลาการ นอกจากนี้ จะยกเหตุผลประกอบ เอกสารอ้างอิงเพื่อชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญและสื่อสารตรงถึงประชาชน ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวไม่ใช่การก้าวล่วงอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ หรือต้องการไปสร้างความขัดแย้ง ไม่ต้องการล้มล้างองค์กรอิสระตามที่ฝ่ายค้านได้กล่าวหา เรายืนยันว่าการที่ศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการแบบนี้ ศาลไม่สามารถก้าวล่วงฝ่ายนิติบัญญัติได้ เพราะมันขัดกับการแบ่งแยกอำนาจอธิปไตยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ


นายอนุสรณ์ กล่าวว่า หลังจากยื่นจดหมายเปิดผนึกแล้ว พท.จะรอดูท่าทีของศาลรัฐธรรมนูญว่ามีท่าทีอย่างไร หากไม่มีท่าทีตอบรับกลับมาเพื่อแสดงจุดยืนที่เป็นประโยชน์ต่อประชาธิปไตยก็จะต้องเดิ​นหน้าต่อในกระบวนการของการยื่นถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยขณะนี้มี ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาลร่วมกันลงชื่อประมาณ 100 คน ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการยื่นถอดถอนเพราจะใช้เสียงเพียง 1 ใน 4 ของสมาชิกรัฐสภาเท่านั้น ทั้งนี้ พท.ไม่ได้หวังไกลไปสู่การถอดถอนหรือการโค่นล้มองค์กรอิสระ เพราะเราเริ่มต้นด้วยการประนีประนอมโดยใช้จดหมายเปิดผนึกอธิบายเนื้อหาสาระข้อกฎหมาย​และวิชาการ


นายอนุสรณ์ กล่าวยังถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์พาดพิงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เกี่ยวโยงกับการชุมนุมหน้าศาลรัฐธรรมนูญ เพราะต้องการทำลายองค์กรอิสระว่า ไม่เป็นความจริง

เมื่อ 5 มิถุนายน 2555 ที่เเชียงใหม่มีการตั้งกองบัญชาการปราบขบถ หลายภาคมีการตั้งแต่ไม่ประกาศตัว ครั้งนี้คงประกาศตัวได้แล้วครับ เพราะไม่ใช่การขบถด้วยตลก.รธน.อย่างเดียว การขบถด้วยคณะกรรมการนโยบายการเงินก็เป็นหนทางหนึ่งที่เดินอย่างคู่ขนาน นี่คืออาวุธที่ร้ายแรงที่สามารถทำลายให้คนไทยล้มละลายได้มากมายอย่างได้ผล น้ำท่วมปี2554นั้นก็ใช่เครื่องมือหนึ่ง คนอัปปรีย์พวกนี้ทำได้ทุกอย่าง อย่าประมาทครับ
โดย  ราษฎรตาสว่าง

....ออกมาช่วยกันจัดระเบียบนำความถูกต้องยุติธรรมกลับคืนสู่สังคมไทย....   โดยการรวมกลุ่มของแนวร่วมทั่วทุกภาคของประเทศ       มาช่วยกันคิด    มาช่วยกันทำ   ร่วมกันคิดหาเสนอแนวทางแนวทางที่เหมาะสมกับสภาพของแต่ละกลุ่มของแนวร่วม   โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของมวลชนและความเสียหายของประเทศชาติเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก   เพื่อไม่ให้ประเทศชาติและพี่น้องประชาชนได้รับการผลกระทบและมีความเสียหายน้อยที่สุด      ขอให้พี่น้องทุกท่านช่วยกันคิดใช้ความรู้ความสามารถหาแนวทางเพื่อยกระดับการต่อสู้ให้มีประสิทธิภาพ        เพราะทุกแนวร่วมมีจุดหมายปลายทางเดียวกันและศัตรูของพวกเราคือ....หัวหน้าเผด็จการอำมาตย์ชั่วและพวกสมุนทาสเหลือบศักดินา... 

...ฉะนั้นการต่อสู้เรียกร้องในครั้งนี้ ต้องรวมใจเป็นหนึ่งเดียวร่วมจับมือกันต่อสู้แบบคู่ขนานคือ  

-แนวทางแรกคือต่อสู้ในระบอบรัฐสภา    ชึ่งมีรัฐบาลที่มาจากประชาชนทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชน  ในการต่อสู้เพื่อแก้ไขปรับปรุงรัฐธรรมนูญโจรปี ๒๕๕๐  ซึ่งเป็นกฎหมายเผด็จการให้เป็นประชาธิปไตยเพื่อใช้แก้ไขปัญหาต่างๆในการทำงานบริหารพัฒนาประเทศของรัฐบาล  ในระบบรัฐสภาตามระบอบประชาธิปไตยต่อไปให้ครบสี่ปี
- แนวทางที่สองคือการต่อสู้ภาคประชาชนนอกสภา   
ถึงเวลาแล้วที่พวกเราพี่น้องประชาชนร่วมชาติ   จะได้ร่วมกันสร้างอนาคตของตัวเองเพื่อลูกหลาน
 พร้อมร่วมมือกันสร้างประเทศชาติให้พัฒนามีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมนานาอาระประเทศเสียที....

....................................................

-บทส่งท้ายฝากถึงเผด็จการอำมาตย์

ท้ายนี้ฝากถึงเผด็จการอำมาตย์เราให้โอกาสพวกท่านมานานแล้ว   แต่พวกท่านเห็นแก่ตัวรักแต่ตัวเองและพวกพ้อง    คิดทำแต่ความชั่วทำลายประเทศชาติ  ทำร้ายกดขี่ข่มเหงเข่นฆ่าประชาชนอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต   ไม่ได้รักประเทศชาติและประชาชนอย่างที่ท่านพูด   ดังนั้นจากที่ท่านไม่ยอมปรับตัวอยู่กับความจริงในสังคมปัจจุบัน   โดยท่านไม่ยุติปัญหาแต่ได้ส่งสัญญาณให้สมุนทาสองค์กรเถื่อนต่างๆ ของท่านออกมาทำขัดขวางการทำงานของรัฐบาล ตัวอย่าง เช่น ให้เฒ่าเปรมออกมาเดินสายเรื่องพูดเรื่องคนดีต้องทดแทนคุณแผ่นดิน    ให้พรรคประชาธิปัตย์ขัดขวางการทำงานของรัฐบาล    ออกใบสั่งให้ศาลรัฐธรรมนูญเถื่อนไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง   ..ออกใบสั่งให้ศาลตัดสินคดีสองมาตรฐาน  ฯลฯ..    หลักฐานเหล่านี้พิสูจน์แล้วว่าท่านทำตัวขัดขวางระบอบประชาชาธิปไตยและพวกท่านได้ประกาศตัวอย่างเปิดเผยว่าพวกท่านไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น  )

ดังนั้นประชาชนไทยก็ถือว่าอำมาตย์......เป็นศัตรูของประเทศชาติและของประชาชน ทั้งประเทศ!!!!.

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar